ททท.โหมกระตุ้นโลว์ซีซั่น ดันรายได้รวมโตตามเป้า

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ททท.ยันไม่ปรับเป้าปี62 มั่นใจจบปีรายได้เติบโต 10% ชี้นักท่องเที่ยวยังเดินทางแม้จะระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ล่าสุดอัดโปรฯเที่ยวในประเทศกระตุ้นคนไทย รักษาฐานตลาดในประเทศไว้ที่ 33% ด้านต่างประเทศยังคงเน้นระยะใกล้ พร้อมจับมือพันธมิตรจีนอัด วี.ไอ.พี.เพิ่ม 4 ล้านคนต่อปี

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แม้ว่าขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในภาวะผันผวนและต้องจับตา แต่ ททท.ยังคงยืนยันเป้าเดิมที่ตั้งไว้ โดยเชื่อมั่นว่าในปี 2562 การท่องเที่ยวจะทำรายได้ให้กับประเทศไทย 3.4 ล้านล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปี 2561 โดยแบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 41 ล้านคนเติบโต 8% สร้างรายได้ 2.24 ล้านล้านบาท เติบโต 11% และตลาดในประเทศ 171 ล้านคน-ครั้ง เติบโต 6% สร้างรายได้ 1.16 ล้านบาท เติบโต 8%

โดยในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมาการท่องเที่ยวของไทยมีรายได้ราว 8.85 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นรวม 5% จากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 34.87 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 3.42% สร้างรายได้ราว 2.85 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.57% และชาวต่างชาติ จำนวน 10.9 ล้านคน สร้างรายได้ราว 6 แสนล้านบาท

“ปัจจัยที่ทำให้ตลาดต่างประเทศเติบโตเกี่ยวข้องกับการยกเว้นค่าธรรมเนียม visa on arrival ให้แก่ 20 ประเทศ และ 1 เขตปกครองพิเศษ การเปิดเส้นทางบินใหม่ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น อินเดีย และเวียดนาม”

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2(เมษายน-มิถุนายน 2562) ที่กำลังจะมาถึง ททท.คาดการณ์ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะเติบโต 10% แบ่งเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศทั้งหมด 43 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 6.34% สร้างรายได้ 276,507 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 9.76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีจำนวนอยู่ที่ประมาณ 9.4 ล้านคน เติบโตราว ๆ 6% จากช่วงเดียวกันของปี 2561

ทั้งนี้ เชื่อว่าในไตรมาส 2 ไทยจะยังคงมีปัจจัยบวกจากงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเลือกตั้งทั่วไป เทศกาลสงกรานต์ที่พึ่งผ่านพ้นไป รวมถึงยังคงได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากการขยายมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม visa on arrival และการเปิดเที่ยวบินใหม่กว่า 11 เส้นทางในเอเชีย และ 48 เที่ยวบินในรัสเซีย และโอเชียเนีย นอกจากนั้น ททท.ยังเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ในหลายพื้นที่ อาทิ อาเซอร์ไบจาน แอฟริกาใต้ คูเวต และกาตาร์

“ปัจจุบันไทยยังมีตัวขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสำคัญเป็นตลาดต่างประเทศ ทำให้ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกผันผวนต่อเนื่อง ไทยย่อมได้รับผลกระทบ เราจึงต้องหันมาทำตลาดในประเทศให้มั่นคงและยืนสัดส่วนที่ 33% โดยเชื่อว่านักท่องเที่ยวก็จะยังคงเดินทางท่องเที่ยวอยู่ แม้อาจจะระมัดระวังด้านการใช้จ่ายมากขึ้น” นายยุทธศักดิ์กล่าว

และว่าโดยในช่วงกรีนซีซั่น หรือว่าโลว์ซีซั่นนี้ ททท.จึงได้ออกมาตรการจัดโปรโมชั่นร่วมกับบริษัทนำเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agency : OTA) 2 แห่ง ได้แก่ agoda.com และ traveloka.com มอบส่วนลดโรงแรมที่พักในเมืองรอง 55 จังหวัด นอกจากนั้น ยังมีโครงการเที่ยวไทยออนไลน์ โดยจัดทำเว็บไซต์ www.teawthaionline.com นำเสนอการท่องเที่ยวที่จัดรูปแบบได้ตามพฤติกรรมนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นร่วมกับธุรกิจโรงแรมที่พักระดับหรู ลดจากราคาหลักหมื่นเหลือในราคาหลักพัน โดย “ลดสูงสุดถึง 65%” พร้อมจัดแพ็กเกจ

“เส้นทางพร้อมเพย์” แบ่งเป็น 4 ประเภท รวม 80 เส้นทาง เสนอลดสูงสุดถึง 500 บาท นอกจากนี้ ยังได้เตรียม “แคมเปญบินพักหลักร้อยหลักพัน ลุ้นรางวัลหลักล้าน” และ “เที่ยววันหยุด 2 วัน ฟรีวันธรรมดา 1 วัน” ซึ่งจะตามมาเร็ว ๆ นี้

นายยุทธศักดิ์กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น ททท.จะยังคงเน้นตลาดระยะใกล้อย่างจีน โดยจะมีการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) กับ บจ.China Travel Service (HK) Group หรือ CTS, บจ.Corporation Alipay (Hangzhou) Information Technology ในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งวางเป้าหมายที่จะดึงนักท่องเที่ยวระดับ วี.ไอ.พี.ของจีนเข้ามาเที่ยวในไทย เจ้าละ 2 ล้านคน รวม 4 ล้านคนต่อปี