ททท.ลุยแผนปี’63 หาเซ็กเมนต์ใหม่-เจาะกลุ่มFIT

จรัญ อ้นมี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ททท.แจกการบ้านทุกสำนักงานรับมืออุตฯท่องเที่ยวปีหน้า เตรียมประชุมใหญ่สรุปแผนยุทธศาสตร์ปี”63 ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เผยโจทย์หลัก คือ หาเซ็กเมนต์ใหม่-เจาะกลุ่มเอฟไอที เน้นความเป็นมืออาชีพ ทำตลาดตรงเป้า

นายจรัญ อ้นมี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ภาพรวมสำหรับปี 2562 คงไม่ขยายตัวมากนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ทำให้ค่าเงินบาทของไทยยังแข็งต่อเนื่อง รวมถึงสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐยังคงยืดเยื้อและส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการกำหนดแนวทางของแผนยุทธศาสตร์สำหรับปี 2563 ที่ ททท.จะประชุมสรุปแผนในเดือนกรกฎาคมนี้

โดยโจทย์สำคัญในการทำแผนยุทธศาสตร์สำหรับปี 2563 นั้น ทุกตลาดต้องเฟ้นหาจุดขายในตลาดที่ตัวเองรับผิดชอบออกมาให้ชัดเจน เพื่อนำมาบูรณาการภาพรวมของแผนให้มีความชัดเจน ไม่ซ้ำซ้อน กลุ่มเป้าหมายต้องชัด พร้อมทั้งเทลเลอร์เมดแผนการตลาดให้สอดรับกับเป้าหมาย ที่สำคัญจะต้องมีระบบวัดผลที่ชัดเจนกว่าเดิมในทุก ๆ กระบวนการขั้นตอนของการทำงาน

“รูปแบบการทำตลาดจะต้องเน้นความเป็นมืออาชีพ มีข้อมูลสนับสนุน และต้องทำอย่างลึกซึ้ง ตรงเป้า เพราะนอกจากเป้าหมายด้านการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว สร้างรายได้แล้ว เรายังต้องเน้นเรื่องกระบวนการทำงาน เพื่อทำให้เห็นว่าซัพพลายไซด์ ดีมานด์ไซด์ในภาพรวมเป็นอย่างไรด้วย”

ทั้งนี้ เนื่องจากในปี 2563 นี้ ททท.จะต้องเพิ่มบทบาทตัวเองในเรื่องของซัพพลายไซด์ด้วย เพื่อให้การพัฒนาด้านซัพพลายในพื้นที่สอดรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยว

โดยตลาดใหญ่ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.ตลาดจีน สัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของตลาดรวม 2.ตลาดยุโรป ปัจจุบันยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว และ 3.ตลาดภายในประเทศ ซึ่ง ททท.ได้พยายามที่จะรักษาสัดส่วนให้อยู่ในระดับ 33-34% ของตลาดรวม โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น ททท.ยังคงเน้นเรื่องของการทำเซ็กเมนเทชั่นให้มากขึ้น รวมถึงหาแนวทางในการกระจายนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อเนื่องตลาดทั้งปี โดยเฉพาะในตลาดยุโรปที่ปกติแล้วนิยมเดินทางท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสสุดท้ายของปี

“สำหรับตลาดยุโรปจะยังคงเน้นการนำเสนอให้เห็นถึงคุณค่าทางจิตใจและเน้นการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาได้ร่วมแชร์ประสบการณ์กับชุมชน” นายจรัญกล่าว

ส่วนตลาดจีนขณะนี้ทุกฝ่ายเริ่มเห็นชัดเจนว่าตลาดอยู่ในภาวะชะลอตัว ดังนั้นโจทย์หลักสำหรับปีหน้าคือ ต้องมองหาเซ็กเมนต์ใหม่ ๆ รวมถึงมุ่งเจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองหรือเอฟไอทีให้มากขึ้นด้วย อาทิ ลูกค้าที่เดินทางเป็นกลุ่มประชุมสัมมนา ฯลฯ เพื่อมาทดแทนตัวเลขที่ชะลอตัว

สำหรับตลาดในประเทศ นายจรัญกล่าวว่า ปีนี้ ททท.จะมุ่งลดความซ้ำซ้อนและแย่งตลาดกันเองของสำนักงานทั้ง45 สำนักงานในประเทศให้มีความชัดเจนขึ้น ที่ผ่านมาได้ให้ทุกสำนักงานทำการบ้านและเฟ้นหาจุดขายที่ชัดเจนในพื้นที่ของตัวเองเพื่อมานำเสนอเป็นแผนต่อไป

“ปีนี้ ททท.เราจะไปประชุมแผนยุทธศาสตร์ปี 2563 กันในวันที่ 1-4 กรกฎาคมที่จังหวัดอุดรธานี ทุกสำนักงานได้รับโจทย์ไปทำงานกันตั้งแต่ต้นปีแล้ว จึงเชื่อมั่นว่าแผนจะไปในทิศทางเดียวกันดีขึ้นและชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ ททท.เชื่อมั่นว่าการตั้งเป้าอัตราการเติบโตสำหรับปี 2563 นี้จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีนี้” นายจรัญกล่าว