ท่องเที่ยวภูเก็ตซบเซาหนักรอบ 10 ปี โรงแรม 5 ดาว ลดราคาชน 3 ดาว

มาตรการ กระตุ้นการท่องเที่ยว เที่ยวปันสุข

ท่องเที่ยวภูเก็ตซบเซาหนัก ! โรงแรมทุกเซ็กเมนต์แห่ทุบราคา อัดกันแหลก กลุ่มโรงแรม 5 ดาวเปิดฉากดัมพ์ราคาบี้ 3.5-4 ดาว นายกสมาคมโรงแรมภาคใต้เผยหนักสุดรอบ 10 ปี ทั้งอัตราการเข้าพัก-ราคาห้อง ยันหั่นราคาหนัก แต่กระตุ้นดีมานด์ไม่ขึ้น วงในโอด “ป่าตอง” ทำเลยอดฮิตยังนิ่งสนิท

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่ง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายนที่ผ่านมา สถานการณ์การท่องเที่ยวในทุกภูมิภาคทั่วประเทศมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ทำให้อัตราการเข้าพักโรงแรมลดลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ต เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยว3 ตลาดหลัก คือ จีน ยุโรป และสแกนดิเนเวียชะลอการเดินทางเข้าภูเก็ตอย่างชัดเจน ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมหันมาเล่นสงครามราคาอย่างหนักในทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่ระดับ 5-6 ดาวลงมาถึง 3 ดาว รวมถึงโรงแรมขนาดเล็ก

ทุบราคาทุกเซ็กเมนต์

แหล่งข่าวรายนี้ย้ำว่า ปกติในช่วงโลว์ซีซั่นโรงแรมทุกแห่งจะทำโปรโมชั่นกระตุ้นตลาดอยู่แล้ว แต่โลว์ซีซั่นปีนี้หนักกว่าปีที่ผ่านมามาก โรงแรม 5 ดาว บางแห่งทำราคาลงมาเท่ากับตลาด 4 ดาว 3.5 ดาว ขณะที่กลุ่มที่จับตลาด 3 ดาว ที่เดิมเป็นเซ็กเมนต์ที่มีการแข่งขันราคารุนแรงที่สุดก็ยิ่งเล่นราคาหนักขึ้นไปอีก ตอนนี้ขายกันไม่ถึง 1,000 บาท ทำให้ราคาเฉลี่ยของโรงแรมระดับ 3 ดาว ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 600-700 บาท/ห้อง/คืน ขณะที่โรงแรม 4 ดาว ราคาอยู่ที่ราว ๆ 1,500-1,800 บาท/ห้อง/คืน

“ส่วนโรงแรม 5 ดาว ตอนนี้ราคาเริ่มขยับลงมาอยู่ในระดับ 2,500-3,000 บาท/ห้อง/คืน และมีบางแห่งจะใช้กลยุทธ์อื่น ๆ เข้ามาเพิ่ม เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า อาทิ ขายเฉพาะห้องพักไม่รวมอาหารเช้า, ขายห้องพักรวมอาหารเช้า, ขายห้องพักแถมนวดสปา หรือให้ส่วนลดร้านอาหารในโรงแรม รวมถึงให้วันพักเพิ่มสำหรับลูกค้าที่จองห้องพักตั้งแต่ 3 คืนขึ้นไป เป็นต้น”

“ภูเก็ต” ซบสุดในรอบ 10 ปี

นายศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีวาน่า กรุ๊ป จำกัด เจ้าของธุรกิจโรงแรม-สปาในจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ในฐานะนายกสมาคมโรงแรมภาคใต้ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บรรยากาศท่องเที่ยวของภูเก็ตเงียบมาก และอาจจะกล่าวได้ว่าเงียบที่สุดในรอบ 10 ปี กล่าวคือชะลอทั้งอัตราการเข้าพักและราคาห้องพัก โดยเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอมาตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เข้าช่วงโลว์ซีซั่นดีนัก

และก็พบว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมในภูเก็ตโดยรวมปรับตัวลดลงถึง 15-20% ซึ่งเป็นการชะลอตัวที่มีนัยสำคัญมาก จากช่วงครึ่งปีแรกปีที่แล้วที่ภูเก็ตยังมีตัวเลขอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักที่ดีมาก

จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมภูเก็ตช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา อยู่ที่ราว 50-60% ขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ตัวเลขอยู่ที่ระดับ 70-75% ส่วนไตรมาส 3 นี้ที่เป็นช่วงโลว์ซีซั่นเต็มรูปแบบคาดว่าจะชะลอตัวต่อเนื่อง และยังไม่มีใครกล้าคาดการณ์ว่า ในช่วงไตรมาส 4 ที่เป็นไฮซีซั่นสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวแต่อย่างใด

“ราคา” ไม่ช่วยกระตุ้นดีมานด์

นายศึกษิตกล่าวด้วยว่า ปกติช่วงไตรมาส 3 ที่เป็นโลว์ซีซั่น โรงแรมทุกเซ็กเมนต์จะมีการทำราคาเพื่อกระตุ้นตลาดของตัวเองอยู่แล้ว แต่โลว์ซีซั่นปีนี้สถานการณ์หนักกว่าปีที่แล้วมาก จึงทำให้มีการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะโรงแรมที่จับกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ที่ต้องการนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่วนโรงแรมที่โฟกัสกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองยังพออยู่ได้ในระดับหนึ่ง และตอนนี้นักท่องเที่ยวไม่มา อัตราการเข้าพักไม่ขยับ การปรับราคาลงมาก ๆ ก็ไม่สามารถช่วยกระตุ้นดีมานด์ได้เนื่องจากภูเก็ตเป็นตลาดที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก

“ปัจจัยที่กระทบหลัก ๆ มาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จากผลกระทบของสงครามการค้า และค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น บวกกับมีโรงแรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกปี ยิ่งทำให้ภาพรวมลดลงมากกว่าปกติ” นายศึกษิตกล่าวและว่า

สำหรับกลุ่มดีวาน่าที่มีโรงแรมที่หาดป่าตอง และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เดินทางด้วยตัวเอง ยังพอประคองอัตราการเข้าพักให้อยู่ในระดับ 60-70% ได้ แต่ก็ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ตัวเลขสูงถึง 70-75%

“ป่าตอง” หาดยอดฮิตเงียบสนิท

ขณะที่แหล่งข่าวจากโรงแรมในย่านหาดป่าตองอีกรายหนึ่งกล่าวในเรื่องนี้ว่า ตั้งแต่หลังช่วงสงกรานต์เป็นต้นมาบรรยากาศท่องเที่ยวของภูเก็ตเงียบมากโดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของหาดหลัก ๆ อย่างป่าตอง กะตะ กระรน ตัวเลขลดลงมาอยู่ที่ 50%

ขณะที่หาดอื่น ๆ เช่น หาดกมลา,หาดราไวย์, หาดในทอน, หาดในยาง, หาดบางเทา ฯลฯ แทบจะไม่นักท่องเที่ยวเลย ทำให้โรงแรมต่าง ๆ ต้องอัดแคมเปญราคากันหนักมาก แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นได้ เพราะโลว์ซีซั่นปีนี้นักท่องเที่ยวหายไปเยอะจริง ๆ บางแห่งที่ไม่เล่นราคาก็จะหันไปใช้วิธีการเพิ่มออปชั่นนำเสนอแถมบริการอื่น ๆ แทน เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในการปรับขึ้นราคาในปีหน้าและที่ชัดเจนที่สุดคือรูปแบบการขายจะมีทั้งราคาหน้าบ้านและหลังบ้าน และมีการปรับขึ้นลงตลอดเวลาเพื่อให้สามารถรับมือกับคู่แข่งได้ โรงแรมไหนที่สามารถรักษาอัตราเข้าพักได้ที่ 30-40% ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีระดับหนึ่งแล้ว

ต่างชาติไม่มา-ซัพพลายล้น

นางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวกับ”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ภาพรวมของธุรกิจโรงแรมตกลงจากปีที่ผ่านมา ประมาณ 10-15% โดยภาคที่นักท่องเที่ยวชะลอตัวมากที่สุด คือ ภาคใต้ โดยเฉพาะภูเก็ต ที่ปกติมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ราว 80-90% และช่วงโลว์ซีซั่นจะยังคงรักษาระดับอัตราการเข้าพักไว้ที่ 70-80% ได้

“เราเห็นภาพการชะลอตัวชัดเจนมากในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จากช่วง 3-4 เดือนแรก ธุรกิจยังค่อนข้างดี ส่วนเดือนมิถุนายนน่าจะปรับขึ้นมาเล็กน้อย ขณะที่ตลาดกรุงเทพฯมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 70-75% เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างดี เพราะกรุงเทพฯยังเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง ทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไป นักธุรกิจ กลุ่มจัดประชุมสัมมนา ฯลฯ”

นางสาวศุภวรรณกล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องสงครามราคานั้น ส่วนตัวมองว่าจะเป็นกลยุทธ์การตลาดในช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อกระตุ้นอัตราการเข้าพักเป็นหลัก เนื่องจากระบบการขายของโรงแรมในปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่สามารถเช็กราคาคู่แข่งในตลาดได้แบบเรียลไทม์ ในภาวะที่ตลอดชะลอตัวเช่นนี้จึงเห็นความเคลื่อนไหวของราคาเร็วมากซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวนอกจากจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งคือ ตามเมืองท่องเที่ยวหลักยังมีโรงแรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้โอเวอร์ซัพพลาย เมื่อ 2 ปัจจัยนี้มารวมกัน ยิ่งทำให้ตลาดโดยรวมลดลงอย่างชัดเจน

ททท.อัดโปรฯเกาะสมุย

ด้านนายวัฒน์ เริงสมุทร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวจากยุโรปเข้ามาน้อยมาก และลดระยะเวลาเข้าพักจากเดิม 7 วัน เหลือ 3-4 วัน ผลจากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา สำหรับหน้ากรีนซีซั่นนี้ โรงแรมที่พักในจังหวัดกระบี่จำนวนหนึ่งที่มีการลดราคา 30-50% หรือ 3 คืน ฟรี 1 คืน เป็นต้น

นางนงเยาว์ จิรันดร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเกาะสมุย ระบุว่า ขณะนี้ภาพรวมของการท่องเที่ยวยังคงทรงตัว การจองที่พักโรงแรมระดับ 5 ดาว อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีการลดหรือหั่นราคาเพราะมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ขณะที่โรงแรมระดับกลางลงไปมีการปรับลดราคาลงบ้าง


โดยครึ่งปีแรกตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลง 4% เป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และนักท่องเที่ยวมีทางเลือกใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น เวียดนาม เมียนมา อย่างไรก็ตาม ททท.สำนักงานเกาะสมุยมีการเพิ่มโปรโมชั่นในช่วงโลซีซั่น และคาดว่าช่วงไฮซีซั่น (กรกฎาคม-สิงหาคม) จะดีขึ้น เพราะสมุยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว