‘ทีเส็บ’รุกสานฝันคนรุ่นใหม่ ร่วมขับเคลื่อนอุตฯไมซ์ไทย

“ทีเส็บ” ผนึกพันธมิตรเดินหน้าโปรเจ็กต์ Thailand”s MICE Startup เปิดเวทีพัฒนาต่อยอดธุรกิจสานฝันคนรุ่นใหม่ พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทยเฟ้นสุดยอดสตาร์ตอัพเข้าโครงการบ่มเพาะ เตรียมนำเสนอผลงานในงานประชุม ส.อุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก พ.ย.นี้

นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่าย MICE Intelligence และนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า Thailand”s MICE Startup เป็นโครงการที่มุ่งหวังจะช่วยกันสร้างเวทีให้กับกลุ่มสตาร์ตอัพ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ เพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินงานและสนับสนุนให้กลุ่มสตาร์ตอัพเติบโต พัฒนาต่อยอดธุรกิจของตนเอง

โดยความร่วมมือของทีเส็บกับภาคีจากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ NSTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA และอิมแพคเทค (ไทยแลนด์)

นางจารุวรรณกล่าวว่า การจัดแข่งขันประกวดการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดงานไมซ์ เปิดตัวโครงการ มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน 47 ทีม จาก 9 ประเทศ และผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือก 12 ทีม ล่าสุดได้ผู้ผ่านเข้ารอบ 3 ทีม คือ สนีค (SNEAK) ไมนด์ทรี (Mindstree)และโพชั่นเนียร์ (Potioneer)

โดยอันดับ 1 ทีมสนีค นำเสนอแพลตฟอร์มวางแผนการท่องเที่ยวด้วยรูปภาพ โดยใช้รูปแนะนำเส้นทางที่ต้องการจะไป อันดับ 2 ไมนด์ทรี นำเสนอระบบที่มุ่งให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือกระจายรายได้สู่ชุมชน และทีมสุดท้าย โพชั่นเนียร์ นำเสนอระบบที่ช่วยให้ผู้ที่สนใจงานอาหารและเครื่องดื่มแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ค้นหางานได้ง่ายขึ้น โดยจุดขายของระบบนี้คือความเป็นส่วนตัว

ทั้งนี้ ในขั้นต่อไปผู้ผ่านเข้ารอบทั้ง 3 ทีม จะต้องเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มหรือโซลูชั่นให้คมชัดขึ้น สามารถตอบโจทย์อุตสาหกรรมไมซ์ได้จริง และทำเป็นธุรกิจได้ รวมถึงการได้รับโอกาสนำเสนอผลงานในงานประชุมสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก หรือ UFI Annual Global Congress ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้

“งานนี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของกลุ่มสตาร์ตอัพที่จะนำเสนอผลงานสู่สายตาของผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งมีโอกาสจะเป็นลูกค้าของพวกเขาในอนาคตด้วยและเนื่องจากปีนี้เป็นปีแรกของโครงการ คณะกรรมการจึงเห็นชอบที่จะให้สิทธิ์ทั้ง 12 ทีมที่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะด้วย เพื่อสร้างเครือข่ายและสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจให้กับเหล่าสตาร์ตอัพมีชุมชนในการพัฒนาเติบโตต่อไปด้วยกัน”นางจารุวรรณกล่าว