“เคแอลเอ็ม”ขยายพอร์ตสู่เอเชียบาลานซ์ความเสี่ยง

แฟ้มภาพ

“เคแอลเอ็ม แอร์ไลน์” รุกขยายพอร์ตการบินสู่ภูมิภาคเอเชีย หวังกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจในอนาคต เผยดีมานด์ตลาดเส้นทางบินระหว่างเนเธอร์แลนด์สู่อเมริกา-จีนพุ่ง เตรียมผนึก “แอร์ฟรานซ์” ขยายธุรกิจในอนาคต พร้อมปรับโหมดเน้นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 

นายปีเตอร์ เอลเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเคแอลเอ็ม เปิดเผยว่าด้วยปัจจัยบวกต่าง ๆ ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตดีในสหรัฐอเมริกาและจีนในปี 2561 ทำให้ดีมานด์ทางด้านการเดินทางจากทั้งสองจุดหมายปลายทางเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้สายการบินตัดสินใจเปิดเส้นทางใหม่เชื่อมระหว่างเนเธอร์แลนด์-สหรัฐ และเนเธอร์แลนด์-จีน เพิ่มอีกหลายเส้นทาง และยังผลให้ในปี 2561 ที่ผ่านมา สายการบินมีอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารดีและเป็นไปในทิศทางบวกต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เส้นทางที่เปิดใหม่นั้นกระจายอยู่ทั่วสหรัฐและจีน อาทิ บอสตัน, เซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง, เซี่ยะเหมิน, หางโจว และเฉิงตู จนทำให้ปัจจุบันมีจำนวนจุดหมายปลายทางกว่า 165 แห่งทั่วโลก โดยในจำนวนนี้มีเส้นทางสู่เอเชียกว่า 18 เส้นทาง เช่นจีน 6 เส้นทาง อาเซียน 6 เส้นทาง ซึ่งเส้นทางสู่ไทยเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สายการบินมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารสูงกว่าสายการบินอื่น ๆ

นายปีเตอร์กล่าวว่า หลังจากการเปิดเส้นทางบินใหม่ทำให้สัดส่วนของแต่ละตลาดที่เคแอลเอ็มบินอยู่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยปัจจุบันตลาดสหรัฐมีสัดส่วนเป็นอันดับที่ 1 คิดเป็น 25% รองลงมาคือตลาดเอเชีย คิดเป็น 24% สายการบินจึงมุ่งที่จะสร้างการเติบโตในทั้ง 2 ตลาดใหญ่ เพื่อกระจายความเสี่ยงต่อไปในอนาคต

“นอกจากจีนแล้วในพื้นที่อื่น ๆ ของตลาดเอเชียและอาเซียน อาทิ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เกาหลี หรือญี่ปุ่น เราได้เปลี่ยนเครื่องบินใหม่ที่บรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้นในบางเส้นทางและปรับเป็นเครื่องบินที่ใช้เชื้อเพลิงน้อยลง รักษ์โลกมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อโจทย์ใหม่ของตลาดที่กำลังมุ่งหน้าสู่ความยั่งยืน” นายปีเตอร์กล่าว

และว่า ในโอกาสครบรอบ 100 ปี สายการบินจึงเตรียมจะเผชิญหน้ากับความท้าทายและก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ โดยการปรับแผนเพื่อการยกระดับการให้บริการและการบริหารจัดการขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การปรับตัวสู่สายการบินดิจิทัลและการมุ่งมั่นที่จะเป็นสายการบินยั่งยืนที่ให้บริการอย่างมีความรับผิดชอบ

โดยในส่วนของการปรับตัวเข้าสู่สายการบินดิจิทัลนั้น ในปีนี้เคแอลเอ็มได้เตรียมนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยวางแผนที่จะนำอเล็กซา (Alexa) ระบบสั่งการด้วยเสียงชื่อดังเข้ามาใช้ในบริการตอบโต้อัตโนมัติของสายการบิน เพื่อให้ผู้โดยสารลดเวลาที่จะต้องใช้ในการรอเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ลง และได้รับความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น

สำหรับในด้านความยั่งยืนนั้น สายการบินได้เตรียมที่จะปรับแผนการบริหารจัดการให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) โดยมีเป้าหมาย

ลดการปล่อยก๊าซอย่างน้อย 15% ภายในปี 2573 พร้อมกันนั้นสายการบินยังทุ่มทุนเข้าซื้อโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับเครื่องบิน เพื่อมาตอบโจทย์การมุ่งเข้าสู่สายการบินยั่งยืน เนื่องจากการรอให้เกิดการพัฒนาโดยผู้ผลิตเจ้าอื่น ๆ ไม่ทันต่อความต้องการ โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มปริมาณการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพจากปัจจุบันที่ไม่ถึง 1% ให้ขยับเป็น 4% ได้ภายในปี 2568


นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับสายการบินแอร์ฟรานซ์ (Air France) ดึงความโดดเด่นของปารีสในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก มารวมกับความแข็งแกร่งของอัมสเตอร์ดัมในฐานะฮับทางด้านการบินมาแปรเป็นศักยภาพที่จะขยายตัวทางธุรกิจต่อไปในอนาคต และเอาชนะความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจยุโรป ความผันผวนต่าง ๆ รวมถึงเพื่อตอบสนองต่อดีมานด์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขีดความสามารถที่ขยายได้อย่างจำกัด โดยยังเชื่อว่าในปี 2562 แนวโน้มจำนวนผู้โดยสารทั่วโลกและในเอเชียจะเติบโตอย่างแน่นอน