“เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลล์” ไม่หวั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชะลอ เดินหน้าลงทุนขยายโรงแรมในเครือ เผยเตรียมทุ่มอีกกว่า 3 พันล้านลงทุนโครงการใหญ่ “พัทยา-ขอนแก่น” รับอีอีซี-เมืองเศรษฐกิจ-รถไฟความเร็วสูง หลังปูพรมเมืองท่องเที่ยวไปแล้วหลายจังหวัด หวังบาลานซ์พอร์ตรายได้กลุ่มคอร์ปอเรต-นักท่องเที่ยวทั่วไป
นายภูมิภัทร นาวานุเคราะห์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว (Group Director-Travel Industry) เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลล์ เปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจโรงแรมในเครือว่า ปีนี้ภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว ทั้งนี้มองว่ามีส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่ามาอย่างต่อเนื่อง บวกกับสภาพอากาศของกลุ่มประเทศในยุโรปปีนี้ไม่เอื้อให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศ รวมถึงปัญหาเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ส่งผลให้อัตราการเข้าพักโดยรวมของบริษัท ในปีนี้ลดลงประมาณ 10-15% และเป็นการปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2561 ที่ผ่านมา
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
โดยโรงแรมที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองท่องเที่ยว ที่จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป หรือกลุ่มเลเชอร์ แต่สำหรับโรงแรมที่อยู่ในเมืองเศรษฐกิจที่จับลูกค้ากลุ่มคอร์ปอเรตยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้ โดยเฉพาะโรงแรมที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออก ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการอีอีซีที่สามารถเติบโตได้เฉลี่ยประมาณ 20% ทำให้รายได้ในภาพรวมของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
“ปีนี้ภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยไม่ดีทั้งระบบทั่วประเทศ แต่สำหรับกลุ่มเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลล์ ถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าคนอื่น ๆ เนื่องจากตลาดเป้าหมายของเราค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อังกฤษ สเปน ฯลฯ รวมทั้งยังโฟกัสนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเองมากขึ้นด้วย โดยคาดว่าปีนี้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของปีนี้น่าจะอยู่ที่ราว 65-70% ลดลงจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ราว 85%”
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีแผนเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีแผนลงทุนเพิ่มอีกกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโรงแรมใหม่อีก 3 แห่ง ประกอบด้วย พัทยากลาง (ชลบุรี) จำนวน 2 แห่ง (ในพื้นที่เดียวกัน) บริเวณติดกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา ขนาดประมาณ 250-300 ห้องพัก ซึ่งปัจจุบันได้รับใบอนุญาตการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 2-3 ปีนี้ และโครงการใหม่ที่บริเวณใจกลางเมืองขอนแก่น
ทั้งนี้เชื่อว่าเมืองพัทยาเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการขยายตัวของโครงการอีอีซีและสนามบินอู่ตะเภาอย่างชัดเจน รวมทั้งยังเป็นโลเกชั่นยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและอยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ สะดวกสำหรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มคนไทยและต่างประเทศ
“เราเน้นการลงทุนเพิ่มในเมืองที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะเมืองที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงและเมืองที่อยู่บนแนวรถไฟความเร็วสูง เพราะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทั้งชาวต่างประเทศและคนไทย อีกทั้งเรายังพยายามที่จะบาลานซ์พอร์ตรายได้ของโรงแรมทั้งจากกลุ่มที่เป็นคอร์ปอเรตและกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปด้วย” นายภูมิภัทรกล่าว
นายภูมิภัทรยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มของธุรกิจโรงแรมในเครือสำหรับปีนี้ด้วยว่า ปกติแล้วขณะนี้จะเริ่มทยอยเห็นอัตราการจองห้องพักล่วงหน้าในช่วงไฮซีซั่น (พฤศจิกายน-เมษายน) แล้ว แต่ ณ ขณะนี้ยอดการจองล่วงหน้ายังต่ำกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก และยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกมากนัก
“อย่างที่ภูเก็ตปีนี้ตลาดรวมตกต่ำมากเป็นประวัติการณ์ ขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ ในภูเก็ตเองต่างก็เร่งหามาตรการมากระตุ้นตลาด คาดว่าน่าจะเริ่มทยอยเห็นเป็นระยะหลังจากนี้” นายภูมิภัทรกล่าว
