โอดท่องเที่ยวทรุดทุกเซ็กเตอร์ เอกชนร่างแผนด่วนถก’รมว.ใหม่’ 1 ส.ค.นี้ื

เอกชนท่องเที่ยวโอดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชะลอตัวหนักทุกเซ็กเตอร์ทั่วประเทศ ทั้งโรงแรม-รถนำเที่ยว-บริษัททัวร์ ชี้ถึงเวลาแล้วที่รัฐ-เอกชนต้องนั่งถกหาแนวทางรับมือสภาพจริงที่เกิดขึ้น หยุดหลงตัวเลขลวงตาของภาครัฐ ฟาก สทท.เตรียมนัดถก รมว.การท่องเที่ยวฯ รายงานสถานการณ์ภาพรวม-ผลกระทบ พร้อมหารือแนวทางรับมือค่าเงินบาท-ต่อมาตรการฟรีวีโอเอ 1 สิงหาคมนี้

แหล่งข่าวระดับสูงในภาคธุรกิจท่องเที่ยว เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยรวมของไทยยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และติดลบหนักขึ้นนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และพบว่าตัวเลขผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งสิ้น

ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม รถนำเที่ยว บริษัททัวร์ ร้านอาหาร ฯลฯ ขณะที่รายงานตัวเลขของหน่วยงานภาครัฐนั้นยังพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังอยู่ในแดนบวก ซึ่งทำให้ความเข้าใจของเอกชนท่องเที่ยวในหลายภาคส่วนสับสนในฐานข้อมูลและการวิเคราะห์ตลาดอย่างหนัก

“ตอนนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในทุกเซ็กเตอร์ในทุกภาคทั่วประเทศพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานการณ์ปีนี้ย่ำแย่กว่าปีที่ผ่านมา พวกเราจึงมองว่า น่าจะถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเราต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และมานั่งถกเพื่อหารือหาทางออกที่ชัดเจนต่อไปได้แล้ว ไม่ใช่หลงอยู่กับตัวเลขที่ลวงตาของหน่วยงานภาครัฐ” แหล่งข่าวกล่าว

นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (สทท.) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประชุมหารือเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องภาพรวมและผลกระทบของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขณะนี้ รวมถึงข้อเสนอแนะและสิ่งที่อยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยแบ่งออกเป็นประเด็นหลัก ๆ ดังนี้

1.รายงานภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และปัญหาที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนกำลังประสบอยู่ในช่วงที่ผ่านมารวมถึงคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต 2.ประเด็นปัญหาเรื่องค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดทัวร์อินบาวนด์ทุกตลาดในช่วงที่ผ่านมา และหารือภาครัฐว่าทางกระทรวงการคลังจะมีมาตรการดูแลภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างไร

3.เสนอต่อมาตรการฟรีวีโอเอ (VOA) หรือการตรวจลงตราวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองต่อไปอีก 1 ปี หลังจากที่มาตรการดังกล่าวนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และอยากให้รัฐบาลรีบประกาศต่อมาตรการให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสิ้นสุดมาตรการ พร้อมทั้งหามาตรการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการสามารถทำการตลาดล่วงหน้าได้อย่างเต็มที่

4.ขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท เนื่องจากในสภาวะปัจจุบันที่ยังใช้ค่าแรงขั้นต่ำที่ 300 บาทต่อวันธุรกิจยังได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่ การปรับขึ้นค่าแรงดังกล่าวจะยิ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนของกลุ่มผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันจะยิ่งทำให้เกิดกระแสการไหลเข้ามาของกลุ่มแรงงานต่างชาติมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้น จึงอยากให้ภาครัฐทบทวนและระงับการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวนี้ไปก่อน

นอกจากนี้ยังมีแผนนำเสนอในด้านมาตรการการสร้างความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วน ทั้งความปลอดภัยทางรถ ทางเรือ ทางอากาศ รวมถึงความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวด้วย รวมทั้งนำเสนอแผนการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในรูปแบบการแจกคูปอง อาทิ ให้กลุ่มสูงอายุได้รับสิทธิพิเศษสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นต้น

“ตามแผนที่วางไว้ทาง สทท.ได้นัดขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อรายงานปัญหา ผลกระทบ รวมถึงข้อเสนอแนะต่าง ๆ ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ หลังจากที่รัฐบาลใหม่ได้แถลงนโยบายเรียบร้อยแล้ว” นายชัยรัตน์กล่าว

แหล่งข่าวในธุรกิจท่องเที่ยวอีกรายหนึ่งกล่าวเสริมว่า นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ทาง สทท.ยังได้มีการหารือในเรื่องความเป็นไปได้ในการจัดหากองทุนกู้ยืมเงินระยะสั้นมาสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้วย เพราะขณะนี้เริ่มมีสัญญาณว่ามีผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งที่เริ่มจะเป็นหนี้เสีย หรือ NPL แล้ว ที่สำคัญกลุ่มผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นสถาบันการเงินด้วย