“ศุภชัย” ชูอุตสาหกรรมไมซ์ดึงนักธุรกิจต่างชาติ-หนุนโอกาสธุรกิจไทยเชื่อมโยงทั่วโลก ชี้ศักยภาพไทยใกล้เคียง “ฮ่องกง” เมืองเศรษฐกิจอันดับต้น ๆ แถมมีจำนวนงานประชุมสัมมนามากสุดในอาเซียน ด้าน “ทีเส็บ” มุ่งเจาะตลาดบนปั้นตัวเลขรายได้
ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) และอดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) เปิดเผยในงานสัมมนาเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE Talk 2019) ภายใต้หัวข้อ “Regional Connec-tivity : Thailand”s MICE Opportunity” ว่า อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจให้เกิดได้ภายในประเทศไทย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ทั้งนี้ เนื่องจากอุตสาหกรรมไมซ์จะดึงดูดนักธุรกิจจากทั่วโลกเข้ามาทำความรู้จักกับประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงทำให้นักธุรกิจได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์และศักยภาพของเมืองไทยด้วยตัวเอง ก่อนจะต่อยอดไปสู่การขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับประเทศได้ด้วย
โดยไทยอยู่ในลำดับต้น ๆ ของประเทศที่มีจำนวนผู้มาเยือนมากที่สุดใกล้เคียงกับพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญอย่างฮ่องกง รวมถึงมีจำนวนการจัดประชุมสัมมนามากที่สุดในอาเซียน ไทยจึงมีศักยภาพในการใช้ธุรกิจไมซ์ในการเชื่อมโยงโอกาสมาให้กับประเทศมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคตนั้นจำเป็นที่จะต้องอาศัยการเรียนรู้จากอดีต ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ผันผวนจากสภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสงครามการค้าโลกระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาที่จริง ๆ แล้วก็มีลักษณะใกล้เคียงกับสถานการณ์ของญี่ปุ่นและสหรัฐในอดีต เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้น
ดร.ศุภชัย กล่าวด้วยว่า การขับเคลื่อนประเทศด้วยเขตเศรษฐกิจพิเศษ ไทยเคยทำได้ในสมัยของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จากความเชื่อมโยง (connectivity) ระหว่างไทยและญี่ปุ่น ที่ทำให้ญี่ปุ่นตัดสินใจมาลงทุนในไทย และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกหรือ Eastern Seaboard Development Program (ESB) ประสบความสำเร็จจนกลายมาเป็นโมเดลของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากยังไม่มีนักลงทุน
ดังนั้น โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ รวมถึงอีอีซี จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้จากอดีต พร้อมทั้งอาศัยเครื่องมือใหม่ ๆ ในการเดินหน้า
ด้าน นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักเดินทางไมซ์ต่างชาติมีจำนวนมากเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่รายได้ลดน้อยลง ทีเส็บเล็งเห็นถึงปัญหาจึงปรับแผนหันมาทำตลาดนักเดินทางไมซ์กลุ่มระดับบนมากขึ้น ผ่านการทำตลาดผ่านตัวแทนการตลาดในประเทศและกลุ่มการค้าต่าง ๆ
สำหรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ขณะนี้มีเว็บรับหน้าที่ช่วยเทรนให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่และช่วยในการดึงงานไมซ์เข้าสู่พื้นที่มากขึ้น รวมถึงทำหน้าที่ที่ปรึกษาให้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับการออกแบบสถานที่จัดงานและการควบคุมอุปทานให้พอเหมาะ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมไมซ์ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าเงิน รวมถึงปัญหาสงครามการค้ามากนัก เนื่องด้วยนักเดินทางไมซ์จากจีนและสหรัฐยังคงเดินทางเข้ามาในไทยตามปกติ แต่ก็อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังว่าผลกระทบจะทวีความรุนแรงขึ้นในเวลาอันใกล้หรือไม่ อย่างไร