ททท.เร่งปั๊ม “ไทยเที่ยวไทย” เพิ่มความถี่-กระจายรายได้

ททท.เร่งเครื่องตลาดไทยเที่ยวไทย ชง ก.การท่องเที่ยวฯอัดมาตรการ “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย” กระตุ้นคนไทยเพิ่มความถี่ในการท่องเที่ยว-กระจายรายได้สู่ฐานราก พร้อมมุ่งเจาะตลาดรายเซ็กเมนต์ มั่นใจรายได้ท่องเที่ยวตลาดในประเทศได้ 9.5% ตามเป้า

นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดท่องเที่ยวในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่เติบโตในอัตราที่ไม่ก้าวกระโดดมากนัก โดยในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมาตลาดในประเทศสะสมการเติบโตของรายได้ทางการท่องเที่ยวไว้แล้วกว่า 7.8% จากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 9.5%

โดยปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์ของตลาดไทยเที่ยวไทยยังเติบโตได้ในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นผลจากการเริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะวันหยุดทางศาสนา อาทิ วันอาสาฬหบูชาวันเข้าพรรษา ที่ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีการจัดงานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศบางส่วนเริ่มปรับแผนรับกับพฤติกรรมใหม่ ๆ ของนักท่องเที่ยวไทยได้ทันท่วงทีมากขึ้น เมื่อรวมเข้ากับหน้าฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง ทำให้คาดว่าจบปี 2562 นี้ ตลาดในประเทศน่าจะสามารถผลักดันรายได้ทางการท่องเที่ยวให้ถึงเป้าหมายที่เติบโต 9.5% ได้

นายนพดลกล่าวว่า ขณะนี้ ททท.ได้นำเสนอโครงการ “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย” ไปที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อผลักดันรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้ถึงเป้าหมายและสามารถกระจายรายได้สู่ชุมชน พร้อมคาดหวังว่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มความถี่ในการเดินทางและมีการจับจ่ายใช้สอย  โดยเสนอให้เลือกวันที่จดจำง่าย อาทิ วันที่ 9 เดือน 9 วันที่ 10 เดือน 10 หรือวันที่ 11 เดือน 11 ในการจัดจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน ที่พักโรงแรม ทัวร์วันเดย์ทริป หรือสินค้าด้านการท่องเที่ยวอื่น ๆ ในจำนวนจำกัดด้วยราคา 100 บาท

สำหรับโครงการท่องเที่ยว ชิม ช็อป ใช้ ข้ามจังหวัด 1,000 บาทต่อหัว ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้เสนอนั้น เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยอีกทางหนึ่ง โดยเชื่อว่าทั้งมาตรการนี้และมาตรการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทยจะช่วยผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยวขึ้นไปอีกอย่างน้อย 1%

ทั้งนี้ นอกจากมาตรการทางด้านราคาแล้ว ททท.ยังได้ดำเนินการตามแผนที่วางไว้โดยการทำตลาดเจาะกลุ่มเซ็กเมนต์ เพื่อเพิ่มความถี่และค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อทริปของนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดภูมิภาคกลางได้จัดงาน “Glamorous Bangkok #RiverLagacy มรดกแห่งสายน้ำ” เชิญกลุ่มเซเลบริตี้ผู้มีชื่อเสียงและอิทธิพลจากภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย 27 คน ร่วมเดินทางในเส้นทางนำร่องสุดพรีเมี่ยมที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เกิดการรับรู้ในกลุ่มชาวไทยที่นิยมท่องเที่ยวแบบพรีเมี่ยมที่ยังไม่รู้จักเส้นทางท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครมากนัก

ด้านนายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเสริมว่า ความพิเศษของเส้นทางนำร่องคือความพรีเมี่ยมที่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวเดิมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อาทิ บริการพิเศษการต้อนรับและเลานจ์จากไอคอนสยาม บริการพิเศษที่พักจากโรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ บริการพิเศษจาก Thai Bus Food รวมถึงบริการมัคคุเทศก์ให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยงาน “Glamorous Bangkok #RiverLagacy มรดกแห่งสายน้ำ” นี้ นอกจากจะเป็นการนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมท่องเที่ยวแบบพรีเมี่ยมแล้ว ยังเป็นการขยายโอกาสที่จะนำนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคต่าง ๆ ที่ติดตามกลุ่มเซเลบริตี้ให้มาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ

นอกจากนั้น กลุ่มที่ร่วมเดินทางในเส้นทางนำร่องครั้งนี้เป็นกลุ่มนักธุรกิจที่มีเครือข่ายทั้งในไทยและต่างประเทศจึงเป็นการเปิดโอกาสให้สินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ได้ทำความรู้จักกับโลก และสร้างความเป็นไปได้ที่เส้นทางนำร่องเจ้าพระยาจะแพร่หลายไปในกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน รวมถึงเพิ่มโอกาสที่เส้นทางนี้จะได้รองรับนักธุรกิจจากต่างชาติที่ต้องการมาพักผ่อนหรือเจรจาธุรกิจกับนักธุรกิจชาวไทยต่อไป