“โบ๊ทลากูน” ผนึกเบอร์เจส ย้ำเชื่อมั่นตลาด “ซูเปอร์ยอชต์” เมืองไทย

สัมภาษณ์

ด้วยประสบการณ์ 25 ปีในการเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือยอชต์ระดับลักเซอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทำให้ “โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง” กลายเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวโดยเรือยอชต์ และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการท่องเที่ยวทางทะเลโดยเรือยอชต์ที่กำลังเติบโตและได้รับความนิยมในกลุ่มไฮเอนด์อยู่ในขณะนี้

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสร่วมสัมภาษณ์ “วริศ ยงสกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง จำกัด ถึงแผนงาน ทิศทางของการทำธุรกิจเรือยอชต์ และแนวโน้มของการท่องเที่ยวโดยเรือยอชต์ไว้ ดังนี้

“วริศ” บอกว่า จากการทำตลาดเรือยอชต์ในฐานะที่ “โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง” เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือยอชต์รายใหญ่ ได้มองเห็นถึงโอกาสการขยายตัวของตลาดเรือยอชต์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการซื้อขายและการให้เช่าเรือยอชต์เพื่อการท่องเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก

โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งพบว่ากลุ่มดังกล่าวนี้มีความต้องการเรือยอชต์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เรือยอชต์ขนาดเล็กกระทั่งถึงเรือยอชต์ขนาดใหญ่ ความยาวตั้งแต่ 30 เมตรขึ้นไป ซึ่งมีมูลค่าตั้งแต่ 1,000-6,000 ล้านบาท หรือที่เรียกกันว่า “ซูเปอร์ยอชต์”


“วริศ” บอกว่า จากแนวโน้มนี้ “โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง” จึงได้ผนึกกำลังกับ Burgess (เบอร์เจส) เบอร์ 1 ของโลก และมีประสบการณ์กว่า 40 ปีในธุรกิจที่ปรึกษา จัดหา ให้เช่า บริหารจัดการ และบริการหลังการขายเกี่ยวกับเรือยอชต์ขนาดใหญ่ ความยาว 30 เมตร หรือ 100 ฟุตขึ้นไปทุกแบรนด์ทั่วโลก เพื่อให้บริการในตลาดเมืองไทยและในอีก 5 ประเทศที่โบ๊ทลากูนฯมีสำนักงานสาขาอยู่ คือ สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีซีย และมัลดีฟส์

“ที่ผ่านมาเราเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือยอชต์ระดับโลกหลากหลายแบรนด์ คือ Princess, Jeanneau, Prestige และ SACS ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับเรือยอชต์ได้หลากหลายและสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกรูปแบบได้อย่างครบวงจร การดึงเบอร์เจสเข้ามาร่วมครั้งนี้จะทำให้เรามีบริการในธุรกิจที่ปรึกษา จัดหา ให้เช่า บริหารจัดการ และบริการหลังการขายเกี่ยวกับเรือยอชต์ ซูเปอร์ยอชต์ ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่มีแนวโน้มเติบโตดี อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำเรื่องมาตรฐานของเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์ในประเทศไทยและในภูมิภาคนี้ และยิ่งต่อยอดให้เรามีบริการที่ครบวงจรและมีมาตรฐานในระดับโลกยิ่งขึ้นด้วย”

นับเป็นการขยายจุดแข็งไปสู่กลุ่มลูกค้าระดับบนที่ปัจจุบันมีความต้องการเรือในเซ็กเมนต์ซูเปอร์ยอชต์มากขึ้น โดยทีมที่ปรึกษาของ “เบอร์เจส” จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนจัดหาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการส่งมอบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาผู้ผลิตเรือที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้า คัดสรรวัสดุอุปกรณ์ การตกแต่งภายใน งานระบบ งานบริการ รวมถึงการบริหารจัดการทางการเงิน เรียกว่าลูกค้าจะได้รับความสะดวกด้วยทีมงานมืออาชีพระดับโลก

“วริศ” บอกด้วยว่า ปัจจัยที่ทำให้เรือซูเปอร์ยอชต์ได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ๆ ประกอบด้วย 1.ท่าเทียบเรือ (marine) มีการพัฒนาให้ทันสมัยเทียบเท่าระดับนานาชาติ และสามารถรองรับซูเปอร์ยอชต์ได้มากขึ้น 2.ระบบเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ 3.วิสัยทัศน์ของหน่วยงานภาครัฐที่มองเห็นศักยภาพของนักท่องเที่ยวในกลุ่มไฮเอนด์

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ The SuperyachtMigration Report ระบุว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีซูเปอร์ยอชต์เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า50% กล่าวคือ จาก 27 ลำ ในปี 2558 เป็น 41 ลำ ในปี 2561

กรรมการผู้จัดการ บริษัทโบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง บอกอีกว่า ความร่วมมือกันครั้งนี้ทั้ง 2 บริษัทมีเป้าหมายเดียวกัน คืออยากให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวโดยเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์ของโลก และช่วยขับเคลื่อนภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย

และเชื่อมั่นว่าทั้งเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์นั้นจะเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ประเทศ โดยจากสถิติพบว่าเรือยอชต์ 1 ลำที่เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ราว 1-2 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่สำคัญยังถือเป็นการท่องเที่ยวที่ดีไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติ ขณะที่ภาครัฐเองก็ให้ความสนใจและสนับสนุนให้การท่องเที่ยวโดยเรือยอชต์สามารถเติบโตได้มากขึ้น

“ปกติเราขายปีละกว่า 40 ลำ มีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 10-15% ต่อปี หากเราสามารถขยายฐานสู่ตลาดซูเปอร์ยอชต์ได้เพิ่มขึ้นก็น่าจะทำให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้น” วริศระบุพร้อมย้ำว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการซื้อเรือยอชต์ลำที่ 2-3 ของลูกค้าจะนิยมเรือยอชต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อมาเติมเต็มความฝันของตัวเองที่มากขึ้น ทำให้ตลาดซูเปอร์ยอชต์ขยายตัวแปรผันตามไปด้วย


ทั้งหมดนี้คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตลาดเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์ในวันนี้มีดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย