“แอร์บีเอ็นบี”ปูพรมโฮมสเตย์เมืองเล็ก

แฟ้มภาพ

“แอร์บีเอ็นบี” ปักหมุดนำร่องโฮมสเตย์ “บุรีรัมย์-สระบุรี” หวังปูพรมท่องเที่ยวนอกเมืองใหญ่ ขยายตลาดรับเทรนด์นักท่องเที่ยวนิยมสัมผัสท้องถิ่น ฟากโฮมสเตย์ชุมชน B-STAY ชี้บ้านพักแห่เข้าร่วมตรึม

นางมิช โกห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมหลายแห่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีเมืองอื่น ๆ ที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ดั้งเดิมของท้องถิ่นอีกหลากหลาย อาทิ หาดใหญ่ (สงขลา), เชียงราย ที่มีอัตราการเติบโตของผู้เข้าพักแอร์บีเอ็นบีกว่า 80-240%

แอร์บีเอ็นบีจึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายตัวในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ นอกจากเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา โดยในช่วงที่ผ่านมาแอร์บีเอ็นบีได้ร่วมกับ B-STAY ผู้ให้บริการโฮมสเตย์ชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดช่องทางการจองห้องพักและทำการตลาดเพื่อนำเสนอโฮมสเตย์ของชุมชนสู่สายตาชาวโลกในช่วงการจัดการแข่งขันโมโตจีพีและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

โดยแผนระยะที่ 1 ของแอร์บีเอ็นบีจะวาง “บุรีรัมย์” และ “สระบุรี” เป็นพื้นที่นำร่องของแคมเปญการขยายตัวสู่จังหวัดที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว โดยจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับความนิยมอยู่แล้วจากการจัดอีเวนต์ด้านกีฬาขนาดใหญ่ ส่วนจังหวัดสระบุรีจะเริ่มต้นที่อำเภอหนองแซงและอำเภอเสาไห้ ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ใกล้กรุงเทพมหานครที่มีความหลากหลายทางการท่องเที่ยวมากและยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นท้องถิ่นสูง รวมถึงแตกต่างจากชีวิตในพื้นที่เมืองอย่างสิ้นเชิง

หลังจากนั้นแอร์บีเอ็นบีมีแผนขยายแคมเปญจากพื้นที่นำร่องออกไปสู่จังหวัดอื่น ๆ โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่มีความเป็นท้องถิ่น มีกิจกรรมหลากหลาย เป็นมิตรและพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ

“เทรนด์ของการท่องเที่ยวเปลี่ยนไปแล้ว นักท่องเที่ยวหันมาให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นมากขึ้น โดยหลังจากการปักหมุดในเมืองไทยแล้วในอนาคตก็อาจจะมีการขยายผลออกไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนต่อไปด้วย” นางมิช โกห์กล่าว

ด้านนายขรรค์ชัย อาราม ผู้บริหาร B-STAY กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาหลังจากการจับมือกับแอร์บีเอ็นบีเปิดให้บริการโฮมสเตย์ชุมชนกว่า 65 แห่ง ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดพื้นที่ของแอร์บีเอ็นบีเป็นอย่างมาก โดยช่วง 3-4 วันที่มีการจัดการแข่งขันโมโตจีพีชาวบ้านมีรายได้จากการเปิดให้เช่าที่พักกว่า 15,000-50,000 บาท หรือมากกว่า 50% ของรายได้ต่อปีเดิมของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ที่อยู่ที่ 80,000 บาทต่อปี ทำให้ในปีนี้มีจำนวนบ้านพักที่เข้าร่วมกับ B-STAY มากขึ้นเป็น 148 แห่ง