“การบินไทย” อวดบุ๊กกิ้งล่วงหน้า “เซนได” ทะลุ 80% อัดโปรโมชั่น-สิทธิพิเศษแน่นอื้อ แจงเซนไดโมเดลอุ้มไร้ขาดทุน

“การบินไทย” อวดยอดจองล่วงหน้าเส้นทาง “เซนได” ทะลุ 80% แจง “เซนไดโมเดล” ช่วยอุ้มไร้ขาดทุน จัดหนักเสนอราคาตั๋ว ใจป้ำแจกสิทธิพิเศษฟรีปูขนยักษ์-สาเก พร้อมน้ำหนักกระเป๋าฟรี 50 โล

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาญี่ปุ่นถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพและมีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยและได้รับอานิสงส์จากการเปิดเสรีวีซ่าสสจยนต์ การบินไทยจึงได้เปิดเส้นทางใหม่สู่เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมียอดจองล่วงหน้าตั้งแต่เดือนตุลาคม-มีนาคมกว่า 80% ของเที่ยวบินในขาออกจากไทย และ 70% ในขาเข้า

โดยการเปิดเส้นทางบินครั้งนี้ถือเป็นเมืองที่ 6 และจุดบินที่ 7 ในประเทศญี่ปุ่นของการบินไทย ต่อจากโตเกียว (นาริตะและฮาเนดะ) นาโกยา โอซากา ฟุกุโอกะ และซัปโปโร และทำให้การบินไทยมีเส้นทางบินครอบคลุมทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น โดยครั้งนี้ได้รับความร่วมมือใน “เซนไดโมเดล” จากโตโยต้าทูโช ผู้บริหารสนามบินเซนได เมืองเซนได และผู้ประกอบการในเมืองเซนได

“ผมและการบินไทยมีความคาดหวังมากต่อการกลับมาเปิดบินสู่เซนไดครั้งนี้ ด้วยเป็นเส้นทางแรกในฐานะดีดีการบินไทยของผม โดยในช่วงเริ่มต้นที่ได้คุยกับพันธมิตรคือการบินไทยไม่พร้อมที่จะขาดทุนในเส้นทางนี้ พันธมิตรของเราจึงได้ให้ความช่วยเหลือเรา โดยนอกจากสนามบินเซนไดแล้ว เมืองเซนไดและผู้ประกอบการในเมืองเซนไดยังเตรียมพร้อมเต็มที่ที่จะรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและปรับแพคเกจให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวชาวไทยอีกด้วย”

ทั้งนี้ การบินไทยได้เสนอโปรโมชั่นในการช่วงเปิดเส้นทางบินลดราคาตั๋วไป-กลับ เริ่มต้นเพียง 13,000 บาทต่อที่นั่ง พร้อมเสนอตั๋วขากลับในราคาเริ่มต้น 4,000 บาท สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการซื้อเพียงตั๋วขากลับกับการบินไทย เช่นเดียวกับที่เปิดให้ผู้โดยสารจองตั๋วมัลติซิตี้เลือกจุดหมายขาไปและต้นทางกลับ นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิพิเศษให้กับ “boarding pass” ของการบินไทยให้ใช้รับส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ ในเซนได เริ่มต้น ณ ปัจจุบัน 12 ร้านค้าและจะเพิ่มเติมอีกในอนาคต

“สำหรับลูกค้าทุกท่านของการบินไทยขอให้เก็บตั๋วโดยสารการบินไทยเอาไว้ให้ดี เพราะตั๋วของการบินไทยในญี่ปุ่นจะกลายเป็นตั๋วทองคำ โดยผมบอกได้ว่าทุกท่านที่บินกับการบินไทยจะได้ปูยักษ์ 1 ตัวและสาเกฟรี 1 ขวด”

ขณะเดียวกัน การบินไทยได้มอบน้ำหนักสัมภาระพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวกลับจากเซนไดระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 31 มีนาคม 2563 จะได้รับน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเป็น 60 กิโลกรัม สำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และเพิ่มเป็น 50 กิโลกรัม สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด รวมถึงมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) โดยสมาชิกที่ซื้อบัตรโดยสารเส้นทางเซนไดจะได้รับโบนัสไมล์สูงสุด 2,000 ไมล์

โดยเส้นทางสู่เซนไดนี้จะเริ่มบินเที่ยวแรกในวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300 นามพระราชทาน “ละหานทราย” ซึ่งมีจำนวนที่นั่ง 364 ที่นั่ง เป็นชั้นธุรกิจ 34 ที่นั่ง และชั้นประหยัด 330 ที่นั่ง และจะเปลี่ยนเป็นเครื่องโบอิ้ง 777-200 ขนาด 309 ที่นั่ง เป็นชั้นธุรกิจ 30 ที่นั่ง และชั้นประหยัด 279 ที่นั่ง โดยทำการบิน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ตามตารางการบิน ดังนี้ เส้นทางกรุงเทพฯ – เซนได เที่ยวบินที่ ทีจี 626 ทำการบินทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 23.59 น. เดินทางถึงเซนได เวลา 07.40 น. ของวันรุ่งขึ้น (เวลาท้องถิ่น) และเส้นทางเซนได – กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ ทีจี 627 ทำการบินทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ออกเดินทางจากเซนได เวลา 11.15 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึงกรุงเทพฯ เวลา 16.05 น.

ทั้งนี้ เซนไดเป็นเมืองเอกในจังหวัดมิยะงิ (Miyagi) ซึ่งเป็น 1 ใน 6 จังหวัดของภูมิภาคโทโฮคุ อยู่ห่างจากโตเกียวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 300 กิโลเมตร เสน่ห์ของภูมิภาคโทโฮคุคือสกีรีสอร์ทจำนวนมากและยังมีหิมะให้เล่นสกีในฤดูร้อนได้ นักท่องเที่ยวจึงสามารถแวะไปเยือนได้ทุกฤดูกาล ทั้งฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง