‘รมว.พิพัฒน์’ทุ่มอัดยาแรงกระตุ้นอุตฯท่องเที่ยวโค้งท้าย

“รมว.พิพัฒน์” อัดยาแรงกระตุ้นอุตฯท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายปี’62 ทั้งมาตรการด้านการเงิน การคลัง กฎหมาย การอำนวยความสะดวก-เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กระตุ้นการใช้จ่ายพร้อมวางไทม์ไลน์ชัดเจน หวังภาคธุรกิจท่องเที่ยวช่วยแก้วิกฤตเศรษฐกิจไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศในโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” ที่เปิดตัวกันมาระยะหนึ่งจะได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนคนไทยเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข และหลายฝ่ายมองว่ายังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่ม
เป้าหมาย

ทางกระทรวงจึงได้มีการเสนอ 16 กิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว (ในที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2562) เพื่อเป็นแนวทางกระตุ้นและจูงใจให้เกิดการท่องเที่ยวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยแบ่งเป็นมาตรการระยะสั้น 11 กิจกรรม และมาตรการระยะกลางและระยะยาว 5 กิจกรรม

โดยมาตรการระยะสั้น 11 กิจกรรม จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3-6 เดือนประกอบด้วย

1.การคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT refund) ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

2.การทบทวนกฎหมาย ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศของกลุ่มคนต่างชาติแรงงานฝีมือ (expatriate)

3.การหักรายจ่าย 2 เท่าของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการอบรม สัมมนาภายในประเทศ

4.การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจลงตรา (วีซ่า) แก่นักท่องเที่ยว

5.การขยายเวลาเปิดด่านชายแดน เป็น 24 ชั่วโมง ช่วงสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดเทศกาล

6.เร่งรัดการใช้ระบบ e-Visa ให้ครอบคลุมกับนักท่องเที่ยวจีนทั่วประเทศ

7.ขอความร่วมมือเร่งประชาสัมพันธ์การใช้ระบบ e-VOA ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูล

8.ทบทวนข้อกฎหมายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมถือบัตรเครดิต/ใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) แทนเงินสด

9.โครงการ Amazing Thailand Grand Sale “Passport Privileges”

10.โครงการประชุมเมืองไทยภูมิใจช่วยชาติ กระตุ้นบริษัท (corporate) โดยให้ voucher 20,000 บาทต่องาน/กลุ่ม และ 11.ส่งเสริมการจัดประชุมภาครัฐ (government meeting)

ส่วนมาตรการระยะกลางและระยะยาว 5 กิจกรรม ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน -1 ปีนั้น ประกอบด้วย

1.การขึ้นทะเบียนสถานพักแรมและให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ เพื่อนำไปปรับปรุงสถานประกอบการและการบริการให้ได้มาตรฐาน

2.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านความปลอดภัย และลดความสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บของนักท่องเที่ยว

3.เพิ่มจำนวนแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม

4.การจัดมหกรรมระดับโลกหรือกิจกรรมขนาดใหญ่ เช่น World Event, Ultra Trail Thailand, การจัดคอนเสิร์ต Tomorrow Land, มหกรรมด้านความงามและสุขภาพ อาทิ World Cannabis Expo

5.การประชุมองค์กรจากต่างประเทศมาจัดในประเทศไทย

“โดยสรุปมาตรการหลักจะแบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ 1.มาตรการด้านการเงิน การคลังและกฎหมาย 2.มาตรการอำนวยความสะดวกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และ 3.มาตรการกระตุ้นตลาดและเพิ่มค่าใช้จ่าย” นายพิพัฒน์กล่าว

และว่าทุกมาตรการที่เสนอมาข้างต้นจะมีขอบข่ายพันธกิจที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับกระทรวงและหน่วยงานอื่น ๆ ตลอดถึงผู้ประกอบการภาคธุรกิจเอกชนอีกจำนวนมาก และเชื่อมั่นว่าหากทุกมาตรการสามารถบริหาร จัดการให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและกระจายรายได้ไปยังชุมชนท้องถิ่น และเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ด้วย