“ไทยสมายล์” ปูพรมอินเดีย ตั้งเป้าไต่ระดับขึ้นแท่นผู้นำตลาด

“อินเดีย” ถือเป็นตลาดศักยภาพที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยต่างจับจ้องเช่นเดียวกับสายการบินที่จับจองโควตาไลเซนส์การบินสู่อินเดีย โดยพบว่าเฉพาะในเครือข่าย “การบินไทย” อย่างการบินไทยและไทยสมายล์มีเครือข่ายเส้นทางระหว่างไทย-อินเดียมากกว่า 80 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ใน 11 เมืองของอินเดีย

“ชาริตา ลีลายุทธ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยสมายล์ ให้ข้อมูลว่า ไทยสมายล์ให้ความสำคัญกับตลาดที่มีศักยภาพสูงอย่างจีน และอินเดียมาโดยตลอด โดยเฉพาะตลาด “อินเดีย” ซึ่งไทยสมายล์เริ่มบุกเปิดตลาดด้วยเที่ยวบินกรุงเทพฯ-คยาและกรุงเทพฯ-พาราณสี ตั้งแต่เดือนตลุาคม ปี 2559

จากนั้นได้ขยายสู่ “เมืองชัยปุระ” และ “ลัคเนา” ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน และเพิ่มเส้นทางบินกรุงเทพฯ-กัลกัตตาในเดือนมีนาคม 2562

ล่าสุดได้เปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-อาห์เมดาบัด ในวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตามแผนธุรกิจด้านการขยายเส้นทางบิน

ปัจจุบัน “ไทยสมายล์” มีเที่ยวบินตรงสู่เมืองต่าง ๆ ในอินเดีย รวม 7 เส้นทางได้แก่ คยา, พาราณสี, ชัยปุระ, ลัคเนา, มุมไบ, กัลกัตตา และอาห์เมดาบัด รวมทั้งหมดประมาณ 38 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

“การเปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-อาห์เมดาบัด ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในภาคพื้นชมพูทวีป ซึ่งเรามั่นใจว่าไทยสมายล์จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอินเดียในอนาคตอันใกล้นี้ได้”

“ชาริตา” บอกว่า การขยายเส้นทางบินสู่เมืองต่าง ๆ ในอินเดีย นอกจากการวางแผนร่วมกันกับการบินไทยแล้ว ยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่จะใช้ connecting flights เหล่านี้เพิ่มโอกาสในการขาย

และไม่เพียงเท่านี้ “ไทยสมายล์” ยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น เพื่อก่อให้เกิดโอกาสใหม่ในเชิงธุรกิจและสร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมีตัวแทนขายที่มั่นใจได้ว่าจะช่วยทำตลาดอินเดียให้เติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาทุกเที่ยวบินในอินเดียได้รับการตอบสนองที่ดีมาก

โดยตัวเลขผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกเส้นทางอินเดีย ในปี 2561 มีจำนวนรวม 230,000 คน หรือเติบโตขึ้นกว่า 10% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกจากนั้น อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร หรือ cabin factor ยังเพิ่มสูงขึ้นในทุก ๆ เส้นทาง และในบางช่วงของปี 2562 นี้ ตัวเลขยังเพิ่มสูงถึงมากกว่า 85% ส่งผลให้เส้นทางการบินสู่อินเดียของไทยสมายล์โดยรวมสามารถเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 20%

“ชาริตา” บอกด้วยว่า สาเหตุที่หนุนให้จำนวนผู้โดยสารในเส้นทางอินเดียเติบโตเป็นผลสืบเนื่องมาจากนักท่องเที่ยวอินเดียที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นนอกจากนั้น เส้นทางของ “ไทยสมายล์” ยังได้รับความสนใจจากชาวไทย เพราะเป็นเส้นทางที่แปลกใหม่สไตล์ exotic ทำให้นักเดินทางรุ่นใหม่จึงนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

โดยปัจจุบันสัดส่วนผู้โดยสารเส้นทางไทย-อินเดียของไทยสมายล์ เป็นชาวอินเดีย 80% เป็นชาวไทย 10% และอีก 5% เป็นสัญชาติอื่น ๆ โดยฤดูการท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของผู้โดยสารขาเข้าอินเดีย-กรุงเทพฯ คือ ช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม โดยเส้นทางที่ได้รับความนิยม คือ ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ เป็นต้น

People smeared in color as they celebrate Holi, the Hindu festival of colors, in Beawar, Rajasthan, India on March 22, 2019. (Photo by STR/NurPhoto via Getty Images)

ส่วนฤดูการท่องเที่ยวของเส้นทางขาออกจากกรุงเทพฯที่ได้รับความนิยมจากคนไทย คือ การเดินทางในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วง เทศกาล Holi ที่ชาวไทยชื่นชอบ และช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมที่ชาวอินเดียในประเทศไทยนิยมเดินทางกลับ เพื่อพบปะญาติและเข้าฤดูหนาวของอินเดีย ซึ่งสภาพอากาศจะเย็นสบายและเหมาะสมในการเดินทาง

ทั้งนี้ เส้นทางบินตรงสู่เมืองต่าง ๆ ของอินเดียทั้ง 7 เส้นทางบิน สายการบินไทยสมายล์ให้บริการแก่ผู้โดยสารใน 2 ชั้นโดยสาร คือ สมายล์พลัส (ชั้นประหยัดพิเศษ) และสมายล์คลาส (ชั้นประหยัด) โดยเครื่องบินแอร์บัส A320-200 พร้อมบริการแบบฟูลเซอร์วิสในทุกเที่ยวบิน