ธุรกิจท่องเที่ยว

“โอเอซิส สปา” สปีดสาขา “ยกมาตรฐานบริการ” ฝ่าวิกฤตท่องเที่ยว

สัมภาษณ์

ในยุคที่การแข่งขันของธุรกิจสปาดุเดือดในจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวนั้น “โอเอซิส สปา” แบรนด์สปาที่ยืนหยัดอยู่ในวงการสปาและท่องเที่ยวของไทยได้กวาดรางวัลกินรี หรือ Thailand Tourism Awards 6 ตัว ซึ่งมากที่สุดในปีนี้

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “ภาคิน พลอยภิชา” กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งโอเอซิส สปา ถึงแนวทางในการบริหารจัดการในยุคที่สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยชะลอตัวให้ผ่านได้อย่างไร ไว้ดังนี้

“ภาคิน” บอกว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของภาคธุรกิจท่องเที่ยวทุกฝ่าย ตั้งแต่โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึง “สปา” เนื่องจากการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากในไทย และเป็นปีที่ “โอเอซิส สปา” ทำรายได้เติบโตมากกว่า 20% ซึ่งถือว่าเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10%

โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางมาเที่ยว ในขณะที่สาขาในกรุงเทพฯมีการเติบโตของนักท่องเที่ยวเกาหลีอย่างเห็นได้ชัดกว่า

และนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 มาถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 สถานการณ์ของโอเอซิส สปาก็ยังคงเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จนมาสะดุดเล็กน้อยในช่วงไตรมาสที่ 2 เนื่องจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแมส

“ภาคิน” บอกว่า แม้นักท่องเที่ยวจะหดหายไปบ้างแต่ “โอเอซิส สปา” สะดุดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากสาขาภูเก็ต ซึ่งได้รับผลกระทบจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนแต่ก็ได้นักท่องเที่ยวรัสเซียมาช่วยเติม

ขณะเดียวกันในช่วงเวลาก่อนหน้าทีมการตลาดของโอเอซิส สปาได้ปรับรูปแบบการทำการตลาดและการเลือกกลุ่มเป้าหมายโดยมุ่งไปที่นักท่องเที่ยวกลุ่มท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (เอฟไอที) มากขึ้น ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ทำให้นักท่องเที่ยวเอฟไอทีที่แม้จะยังมีจำนวนน้อยกว่า แต่ก็มีการจับจ่ายมากขึ้นเข้ามาเติมแทน

นอกจากนั้นในช่วงต้นปี 2562 โอเอซิส สปายังได้เปิดให้บริการสาขาใหม่อีก 2 สาขา ในพื้นที่ถนนนิมมานเหมินท์ จังหวัดเชียงใหม่ และย่านลากูน่า จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยววอล์กอินเป็นอย่างดี คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 สาขาในภูเก็ตและเชียงใหม่ก็เริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงปกติ เพียงแต่อาจจะไม่หวือหวาอย่างช่วงปี 2561 โดยคาดว่ารายได้สะสมของโอเอซิส สปาทั้งหมด 14 สาขาในปี 2562 นี้ จะเติบโตประมาณ 10% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 20%

โดยทำรายได้คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

สำหรับในปี 2563 ที่จะถึงนี้ “ภาคิน” บอกว่า โอเอซิส สปาเตรียมที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 2 แห่งในกรุงเทพฯ บริเวณย่านทองหล่อและถนนวิทยุ โดยโอเอซิส สปาแห่งใหม่ที่ทองหล่อจะเป็นโอเอซิส สปาที่มีจำนวนห้องมากที่สุดถึง 14 ห้อง เป็นอาคารสูง 4 ชั้นที่มีสวนคั่นกลาง คาดว่าจะเปิดบริการได้ไม่เกินต้นปี 2563 ส่วนสาขาใหม่บนถนนวิทยุนั้นจะตั้งอยู่ใกล้กับออลซีซั่นเพลส คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2563

โดยเหตุผลที่เลือกเปิดสาขาในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นอีก 2 สาขานั้น เป็นเพราะว่า 2 สาขาเดิมบริเวณสุขุมวิท 31 และสุขุมวิท 51 มีอัตราการใช้ห้องสูงกว่า 70-80% ต่อเนื่องมาเป็นเวลามากกว่า 2 ปี และบ่อยครั้งที่ห้องไม่พอรองรับลูกค้าวอล์กอิน การเพิ่มสาขาใหม่จึงเป็นโอกาสในการเปิดสาขาเพื่อรองรับลูกค้าได้มากขึ้น

พร้อมกันนั้นเพื่อหาความสมดุลให้กับธุรกิจโอเอซิส สปามากยิ่งขึ้น ในปีนี้ยังมีแผนจะปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มสัดส่วนลูกค้าชาวไทยจากปัจจุบันมีเพียง 10% ให้ขึ้นเป็น 20% ด้วยการเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 26-35 ปี ที่มีสถิติชี้ว่าใช้บริการสปามากเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไต่ระดับเป็นมืออาชีพในสายวิชาชีพอย่างมั่นคงรวดเร็ว มีรายได้สูง และมีไลฟ์สไตล์ชอบทำกิจกรรมนอกบ้าน ผ่านวิธีการทางการตลาดที่เน้นโซเชียลมีเดีย การตลาดออนไลน์ และการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (OTA)

ส่วนตลาดต่างประเทศนั้นเชื่อว่าตลาดเอเชียยังคงแข็งแกร่ง ทั้งตลาดเกาหลีและญี่ปุ่น ส่วนตลาดจีนคาดว่าจะค่อย ๆ กลับมาเติบโตตามปกติจากจำนวนประชากรจำนวนมากที่ยังไม่เคยเดินทางมาเยือนไทย โดยเชื่อว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยจะค่อย ๆ ดีขึ้น

ทั้งนี้ เพราะไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่มีความหลากหลายสูง เพียงแต่ถ้าหากมีเป้าหมายที่จะทำตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพระดับไฮเอนด์ก็มีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และความปลอดภัยให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวด้วย

“ในช่วงนี้สภาวะเศรษฐกิจโลกและท่องเที่ยวไทยไม่ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โอเอซิส สปาก็จะฉวยโอกาสในการทุ่มเวลากับการอบรมนักบำบัด คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และยกระดับมาตรฐานการบริการให้เหนือกว่าเดิม พร้อมตั้งเป้าหมายการเติบโตด้านรายได้ของโอเอซิส สปา 20% ในปีหน้าหรือคิดเป็นมูลค่ากว่า360 ล้านบาท”

ขณะเดียวกันยังมองว่าในแง่ของการแข่งขันในธุรกิจสปาที่ดุเดือดขึ้นทุกขณะนั้น ในฐานะผู้บริการสปาที่มีอายุยาวนาน โอเอซิสก็ทุ่มเทให้กับการรักษาระดับคุณภาพมาตรฐานการบริการอย่างเต็มที่

โดยระบบบริหารงานจากส่วนกลางด้วยเครื่องมือ spa system management ที่มีอยู่จะช่วยมอนิเตอร์ข้อมูลจากสาขาต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยในการจัดสรรลูกค้าในแต่ละสาขาอย่างเหมาะสม

กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง โอเอซิส สปา ยังให้สัมภาษณ์ปิดท้ายด้วยว่า สำหรับอนาคตในอีก 5-10 ข้างหน้า โอเอซิส สปายังตั้งเป้าที่จะรักษาตำแหน่งของแบรนด์ในฐานะ relaxation day spa ชั้นนำเอาไว้ พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการและบุคลากรที่ลูกค้าชื่นชอบพร้อมทั้งกระจายสาขาของโอเอซิส สปาไปในพื้นที่ที่มีทราฟฟิกวอล์กอินเข้ามาได้ง่ายขึ้น เพื่อรับกับเทรนด์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปด้วย