ททท.วางแผนหวนดูดเงิน “กรุ๊ปทัวร์” เติมรายได้ท่องเที่ยวไทย ดันเป้าปี 63 นทท.ต่างชาติ 41.8 ล้าน

ผู้ว่า ททท. เผยมาตรการเด็ด เร่งดูดเงิน นทท.กลุ่มกรุ๊ปทัวร์ เติมรายได้ท่องเที่ยวไทย เน้นย้ำเน้นย้ำ “60 ปี ททท.-ท่องเที่ยวรับผิดชอบ” เป็นเรือธงปี’63 หวังทำเป้า 41.8 ล้านคน รายได้ 2.22 ล้านบาทตามสั่ง ครม.ศก.

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถิติกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาช่วง 10 เดือนแรก เดือนมกราคม-ตุลาคมของปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวน 32,508,014 คน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 1,577,048.72 ล้านบาท ยังห่างจากเป้าหมายที่กระทรวงฯ มอบอีก 7.3 ล้านคน

โดย ททท.คาดว่าหากเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมสามารถทำตัวเลขนักท่องเที่ยวให้ได้เท่ากับปี 2561 โดยไม่มีการเติบโตเลยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 3.2 ล้านคนและ 3.9 ล้านคน รวมเป็น 39.6 ล้านคนเป็นอย่างน้อย ทำให้เชื่อว่าจะสามารถดันจำนวนนักท่องเที่ยวไปถึง 39.8 ล้านคนได้ในท้ายที่สุด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ททท.อยู่ระหว่างการติดตามผลจากมาตรการท่องเที่ยวที่ออกไปในช่วงที่ผ่านมา ส่วนมาตรการด้านการท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เพื่อหวังผลในอนาคตคือ “มาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์” โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังไม่เคยเดินทางเที่ยวไทยมาก่อน (First visit)ให้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้นหลังจากที่ถูกแบ่งตลาดไปโดยเวียดนาม เมียนมาร์ และอื่นๆ

เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลังเริ่มระมัดระวังในการใช้จ่ายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวหลังจากสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มได้รับผลกระทบ โดยคาดหวังว่าจะสามารถช่วยเติมนักท่องเที่ยวและรายได้ทางการท่องเที่ยวในช่วงต้นปีหน้า โดยเฉพาะในช่วงช่องว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนที่อยู่หลังจากเทศกาลตรุษจีนในเดือนมกราคม

สำหรับในปี 2563 ที่กำลังจะถึงนี้ ททท.ได้รับมอบเป้าหมายจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.ศก.) กำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย 41.8 ล้านคน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 2.22 ล้านบาท โดย ททท.ได้เตรียมที่จะยกแคมเปญเรือธงอย่าง “ครบรอบ 60 ปี ททท.” และ “การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” (Responsible Tousism) ขึ้นมามีบทบาทสำคัญ

โดยตั้งเป้าที่จะทำให้ “การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” (Responsible Tousism) กลายเป็นแคมเปญอันดับ 1 ของปี 2563 เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเกิดจิตสำนึกในการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่โปรโมทการท่องเที่ยว และเชื่อว่าจากแผนที่กำหนดไว้ว่าจะลดการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ลดลง 50% ภายในปี 2563 จะเป็นไปได้มากขึ้นและเร็วขึ้นจากกระแสรักโลกในช่วงที่ผ่านมา