“แอตต้า” หวั่นกระแสบอยคอต แนะ “ภาครัฐ” ทบทวนปัญหา

สำหรับในฟากของเอกชนท่องเที่ยวของไทยนั้น “สุรวัช อัครวรมาศ” อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) ผู้ดูแลตลาดไต้หวัน ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงประเด็นปัญหาดังกล่าวว่า ทางสมาคมแอตต้าได้ติดตามข่าวที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัทนำเที่ยวไต้หวันที่เดินทางมาประเทศไทยในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

“สุรวัช” บอกว่า สมาคมแอตต้าในฐานะที่เป็นตัวแทนภาคเอกชน เมื่อรับทราบว่าคู่ค้าที่ไต้หวันมีปัญหาจึงมีหน้าที่ต้องดูแลเขาด้วย โดยขณะนี้ทางสมาคมแอตต้าได้เตรียมทำหนังสือเพื่อแจ้งเรียนถึงผลกระทบและปัญหาที่เกิดขึ้น และจำเป็นต้องแก้ไขโดยเร่งด่วนต่อรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป

โดยสาระหลักของหนังสือดังกล่าวระบุว่า ให้ภาครัฐเล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดนักท่องเที่ยวไต้หวันที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องถึงปีละกว่า 20% ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 8 แสนคนในปีนี้ และให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันนี้มีกว่า 120 ประเทศทั่วโลกที่คนไต้หวันสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เนื่องจากไต้หวันเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ค่อนข้างสูง พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลไทยพิจารณาทบทวนเงื่อนไขการยื่นขอวีซ่าสำหรับคนไต้หวันที่จะเดินทางมาประเทศไทยอีกรอบ เพื่อให้เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกระบวนการปัจจุบันที่คนไต้หวันพูดกัน คือ แม้ว่าจะยื่นผ่านระบบ e-Visa ก็ยังต้องนำพาสปอตไปติดสติ๊กเกอร์ที่สำนักงานการค้าฯอีกครั้ง ซึ่งกลายเป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อน

“จากการทำงานร่วมกับเอเย่นต์ทัวร์ไต้หวันพบว่า ประเด็นสำคัญในตอนนี้ คือ คนไต้หวันเริ่มมีกระแสไม่พอใจ ต่อต้านและ boycott ประเทศไทยบ้างแล้ว โดยบางส่วนทำการยกเลิกโปรแกรมเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าวิตกอย่างมาก เพราะหากคนไต้หวันบอยคอตไม่มาเที่ยวเมืองไทยเมื่อไหร่ การจะกู้คืนสถานการณ์ให้นักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้งจะทำได้ค่อนข้างยาก” สุรวัชกล่าว

“สุรวัช” ยังบอกด้วยว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ได้นำประเด็นปัญหาและอุปสรรคของการทำตลาดท่องเที่ยวเอาต์บาวนด์ (ขาออก) มาประเทศไทย กรณีสถานทูตไทยจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการยื่นขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน พร้อมได้เชิญผู้แทนจากกรมการกงสุล และผู้แทนจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มาร่วมประชุมหารือด้วย

หลังจากประชุม ภาครัฐของไทยก็ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ณ กรุงไทเป ไต้หวัน (Thai Trade and Economic Office, Office Taipei) หรือ TTEO ก็ได้ประกาศเลื่อนวันกำหนดใช้ระบบการยื่นขอวีซ่าให้คนไต้หวัน ไปเป็นวันที่ 1 มีนาคม 2563 จากเดิมที่จะเริ่มใช้วันที่ 3 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมาถือเป็นการแก้ปัญหาแบบเร่งด่วนที่สะท้อนให้คนไต้หวันรู้สึกว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับตลาดไต้หวันเช่นกัน

พร้อมทิ้งท้ายว่าในช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนก่อนที่ระบบ e-Visa ใหม่สำหรับคนไต้หวันจะเริ่มใช้ 1 มีนาคมนี้ จึงน่าจะเป็น “เวลา” และ “จังหวะ” ที่ดี ที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะได้กลับมาทบทวนประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นอีกครั้ง…