“พิพัฒน์” สปีดเที่ยวไทย”63 บูมบิ๊กอีเวนต์ ดันฟรี “วีซ่า-VOA”

สัมภาษณ์

ตัวเลขรายได้ของการท่องเที่ยวของไทยที่พลาดเป้าหมาย ไปราว 3 แสนล้านบาท ในปี 2562 ที่ผ่านมานั้น ทำให้หลายฝ่ายต่างกังวลว่าปัจจัยลบต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงแนวโน้มของค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องนั้น จะยังคงเป็นปัจจัยลบที่ตามมารุมเร้าภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยในปี 2563 นี้ต่อไป

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์พิเศษ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถึงแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวและขับเคลื่อนภาคธุรกิจท่องเที่ยวไทยในปี 2563 นี้ ให้ไปได้ถึงฝั่งฝัน พร้อมสร้างการเติบโตทางรายได้ให้กับประเทศไทย ไว้ดังนี้

อัดบิ๊กอีเวนต์ตลอดทั้งปี

“รมว.พิพัฒน์” เริ่มต้นให้สัมภาษณ์ว่า แม้ปัจจัยต่าง ๆ จะยังไม่เอื้ออำนวยต่อสถานการณ์ท่องเที่ยวสำหรับปี 2563 ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นนี้มากนัก ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่าจะเป็นปีที่เหนื่อยสำหรับคนในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวต่อไป แต่ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้เตรียมแผนงานที่จะดำเนินงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความคึกคักให้กับภาคธุรกิจท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยเฉพาะแผนการใช้อีเวนต์ขนาดใหญ่ระดับชาติและระดับโลก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย

นอกจากนี้ กิจกรรมที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ยังมีความหลากหลาย ตั้งแต่กิจกรรมวิ่งเทรล ณ ดอยอินทนนท์ ที่มีแผนจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์เป็นสนามแรก ประเดิมก่อนอีก 4 สนาม ตลอดทั้งปีจะตามมาพร้อมนักวิ่งสนามละกว่า 2-3 พันคน ใกล้เคียงกับช่วงที่จะจัดแบงค็อกมาราธอน ในกรุงเทพฯ รองรับนักวิ่งกว่า 2.8 หมื่นคน คิดเป็นนักวิ่งต่างชาติกว่า 5-6 พันคน

“ทูมอร์โรว์แลนด์” มาแน่

และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน คือ งาน “ทูมอร์โรว์แลนด์” เทศกาลดนตรีแนวดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ 1 ในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ซึ่งในทุก ๆปีจะขายบัตรหมดภายในไม่กี่นาที ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องสถานที่ระหว่างพัทยา (ชลบุรี) หรือชะอำ (เพชรบุรี)ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยคาดว่างานนี้จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศมาได้กว่า 100,000 คน สร้างรายได้ต่อหัวไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ตลอด 6 วันของการจัดงาน

“รมว.พิพัฒน์” ยังบอกด้วยว่า ไม่เพียงเท่านี้ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯยังมีแผนร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม สนับสนุนงานอีเวนต์เกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ ของไทย ตลอดทั้ง 12 เดือนในปี 2563 นี้ และยกระดับงานอีเวนต์ให้เป็นงานระดับชาติ หรือนานาชาติ เพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมงานจากทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยเช่นกัน

ดันต่อเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4

พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่า ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะยังเดินหน้าผลักดันนโยบายการขยายระยะเวลาเปิดสถานบันเทิงในทำเลท่องเที่ยว จากเดิม 02.00 น. เป็น 04.00 น.ต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลเพื่อเสนอต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

“จากการเดินทางเพื่อลงพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไทยเกือบทุกพื้นที่ในปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย และช่วยให้การเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาที่ต้องอาศัยช่องทางผิดกฎหมายหายไป พร้อมสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวและช่วยผู้ประกอบการในพื้นที่ท่องเที่ยวให้สามารถรอดพ้นจากวิกฤตในปีหน้าไปได้”

ชงต่อฟรี VOA-เปิดฟรีวีซ่า

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯยังย้ำด้วยว่า อีกหนึ่งภารกิจที่ต้องเร่งดำเนินการสำหรับปี 2563 นี้ คือการผลักดันเรื่องขยายมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี จากเดิมที่จะหมดเวลาในปลายเดือนเมษายน 2563 นี้และเตรียมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหาช่องทางในการเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว ที่มีศักยภาพและการเติบโตสูงอย่างจีน และอินเดียต่อไป เช่นเดียวกับที่เตรียมเข้าหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อขยายมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเที่ยวเมืองรองและชุมชนด้วย


พร้อมทั้งเชื่อว่าจะสามารถผลักดันรายได้การท่องเที่ยวรวมในปี 2563 ของไทย ให้ได้ถึง 3.4 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 41 ล้านคนและนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยกว่า 172 คน-ครั้งได้สำเร็จ…