ททท.ฝ่าปัจจัยลบ จัดหนักปลุกคนไทยเที่ยวไทย

ยุทธศักดิ์ สุภสร" ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ปี 2563 นี้ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างยิ่ง โดยนอกจากเรื่องของเศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาทแล้ว ปีนี้ยังมีปัจจัยลบที่ถือเป็น “ปัจจัยเสี่ยง” เพิ่มขึ้นอีกระลอก โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน ที่ทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่ในขณะนี้

“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถึงแนวทางสำหรับการเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยลบต่าง ๆ รวมถึงแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยสำหรับปี 2563 ไว้ดังนี้

“ยุทธศักดิ์” บอกว่า ปี 2563 นี้เป็นปีที่พิเศษสำหรับ ททท. เนื่องจากเป็นปีที่องค์กรก่อตั้งมาครบรอบ 60 ปี ททท.จึงได้วางแผนที่จะใช้เลข 60 ที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งต่อทั้งบุคลากรและประชาชนไทยมาร่วมสร้างแคมเปญเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนชาวไทยที่มีความผูกพันอันยาวนานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะได้รับแรงกระตุ้นและเกิดแรงบันดาลใจในการออกไปท่องเที่ยวมากขึ้น

โดยวางแผนว่าจะมีแคมเปญที่เกี่ยวข้องกับเลข 60 ออกมาให้ประชาชนได้รับทราบและร่วมสนุกตลอดทั้งปี 2563 เริ่มด้วยโครงการ 60 เส้นทางความสุข @ เมืองไทย เดอะ ซีรีส์ เป็นแคมเปญแรก และเป็นแคมเปญที่จะลากยาวนานตลอดทั้งปี ครอบคลุมทั้งหมด 3 ฤดูกาล เพื่อเฉลิมฉลองความพิเศษ

นักท่องเที่ยวชาวไทยจะได้รับมอบส่วนลดพิเศษจากพันธมิตรใน 60 เส้นทางที่เป็นเส้นทางยอดนิยมของแต่ละซีซั่น โดยซีซั่นแรกคือ ฮัลโหล วินเทอร์ (Hello Winter) ซึ่งมีเส้นทางยอดนิยมบริเวณภาคเหนือหลากหลาย อาทิ ดอยพุ่ยโค แม่ฮ่องสอน, ดอยอ่างขาง เชียงใหม่, กิ่วแม่ปาน เชียงใหม่ ฯลฯ จากนั้นจะเปลี่ยนชื่อและเส้นทางท่องเที่ยวในแต่ละซีซั่นตามฤดูกาลต่อไป

“ยุทธศักดิ์” บอกด้วยว่า โดยพันธมิตรของ ททท.จะร่วมมอบส่วนลดหลากหลาย อาทิ สายการบินการบินไทย, ไทยสมายล์,นกแอร์, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ, แพลตฟอร์มทราเวลไอโก, ผู้ให้บริการเช่ารถเอแซปและบัดเจท และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่อีกมากมาย

นอกจากนั้น ททท.ยังเตรียมที่จะใช้เลข 60 เพื่อส่งเสริมการขายผ่านช่องทางอื่น ๆ อีกจำนวนมาก อาทิ เตรียมมอบตั๋วโดยสารที่นั่งละ 60 บาท จำนวนจำกัดให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุออกไปท่องเที่ยว

และยังบอกด้วยว่า สำหรับแคมเปญ “60 เส้นทางความสุข @ เมืองไทย เดอะ ซีรีส์” นั้น ททท.มุ่งเป้าที่จะทำตลาดในนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายอย่างนักท่องเที่ยวเจนวาย นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว และนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยแอ็กทีฟ ทั้ง 3 กลุ่มเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังการใช้จ่ายสูงและต้องการออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ

ทั้งนี้ ททท.ตั้งเป้าที่จะมีผู้เข้าร่วมโครงการ 60 เส้นทางความสุข @ เมืองไทย เดอะ ซีรีส์ ผ่านการซื้อสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของพันธมิตรผ่านทางเว็บไซต์ของ ททท.ตลอดระยะเวลาในการดำเนินโครงการจำนวนไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย โดยแบ่งเป็นฤดูกาลละอย่างน้อย 3 หมื่นคน

และยังคาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านการสร้างสรรค์ไอเดียเกี่ยวกับเส้นทางการท่องเที่ยวที่มีในเว็บไซต์ของโครงการ โดย ททท.คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ตลอดระยะเวลาโครงการมากกว่า 3 ล้านครั้ง

ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังบอกอีกว่า ในโอกาสนี้ ททท.ยังต้องการที่จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วน นอกจากในส่วนของการทำตลาดอย่างที่ได้ทำมาตลอด โดยตั้งใจที่จะกระจายการสนับสนุนไปทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน ผ่านการอบรมและให้ความรู้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว

นับตั้งแต่ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคไปจนถึงการทำตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไปพร้อมกันทั้งระบบให้มากกว่าที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตั้งแต่เข้าสู่ปี 2563 มาเกือบครึ่งเดือนแล้วพบว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองยังไม่ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเท่าไรนัก ทั้งความขัดแย้งในตะวันออกกลาง สภาพเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ


กระนั้นก็ตาม ททท.ก็จะระดมสรรพกำลังอย่างเต็มที่เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางการท่องเที่ยวของปี 2563 ที่วางไว้ โดยเชื่อว่าในไตรมาสแรกจะสามารถบรรลุอย่างน้อย 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 172 ล้านคน-ครั้ง และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 41 ล้านคน