ธุรกิจท่องเที่ยว

บินตรง “ซัปโปโร” กับ “นกสกู๊ต” ดูกวาง เล่นสกี เดินชิล ชมเมือง

ใครเป็นสายเที่ยว สายลุย อยากสัมผัสบรรยากาศหนาว ๆ แบบติดลบ ต้องไม่พลาด เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะได้ประสบการณ์ใหม่จากทริปนี้ที่จะพาไปดูกวางเรนเดียร์ตัวเป็น ๆ พร้อมกับทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ท่ามกลางหิมะแบบจัดเต็ม

ทริปนี้เลือกบินตรงกับ สายการบินนกสกู๊ต ที่เพิ่งเปิดเส้นทางบินที่ 3 ในประเทศญี่ปุ่น กับบินตรงสู่ซัปโปโร เกาะฮอกไกโด ที่เพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยสามารถบินได้ทุกวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 04.00 น.

โดยสายการบิน “นกสกู๊ต” หวังขยายตลาดรองรับทั้งนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่จะเดินทางมาไทย และนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยากออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ในประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ได้เปิดตัว 2 เส้นทางบิน คือ โตเกียวและโอซากาแล้วเมื่อปีก่อน

สำหรับเที่ยวบินสู่ “เมืองซัปโปโร” นี้นกสกู๊ตบินใช้เครื่องบิน Boeing 777-200ที่มีขนาดใหญ่และกว้างนั่งสบาย รองรับผู้โดยสารได้ถึง 415 ที่นั่ง แบ่งเป็นชั้นประหยัดพรีเมี่ยม (Scoot Plus) และชั้นประหยัด

แต่เนื่องจากต้องใช้เวลาบินนานถึง 6 ชั่วโมง 15 นาที จึงแนะนำให้เลือกใช้บริการ Scoot Plus ซึ่งความพิเศษแรกของ Scoot Plus อยู่ที่ไม่ต้องรอเช็กอินนานเพราะมีเคาน์เตอร์เช็กอินเฉพาะ พร้อมรับกระเป๋าก่อนใคร อีกทั้งยังนั่งสบาย ด้วยเบาะไซซ์ใหญ่ กว้าง 21 นิ้ว เหยียดขายาวจุใจ พร้อมบริการอาหารและเครื่องดื่มฟรี

เรียกว่านอนชิล ๆ กลิ้งไปกลิ้งมาก็ถึงสนามบินนิวชิโตเสะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นใช้เวลาไม่นานสำหรับขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ก่อนเดินมารอรถบัสของโรงแรม เพื่อเดินทางต่อไปยังโรงแรมรุซุตสึ รีสอร์ต (Rusutsu Resort) ซึ่งใช้เวลาเดินทางราว 2 ชั่วโมง

ครั้งนี้เราถึงโรงแรมในเวลาประมาณ 16.00 น. (เวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น ซึ่งเร็วกว่าไทย 2 ชม.) แต่เนื่องจากเป็นฤดูหนาว ทำให้ท้องฟ้ารอบ ๆ มืดลงอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำได้วันนี้ คือ เดินสำรวจรอบ ๆ โรงแรมเท่านั้น

โดยข้อมูลเบื้องต้นของ “รุซุตสึ รีสอร์ต”คือ เป็นสกีรีสอร์ตขนาดใหญ่มี 500 ห้องพักข้ามฟากไปก็มีโรงแรมในเครือเวสตินรีสอร์ต (The Westin Risatsu Resort)มีห้องพักถึง 200 ห้อง ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุกฤดู

แต่ไฮไลต์เด็ดสุด คือ ต้องมาในฤดูหนาวเพื่อทำกิจกรรมทั้งสโนว์บอร์ดสโนว์ชูวอล์กกิ้ง (snow shoe walking) สโนว์โมบิล ล่องแก่งหิมะ ซึ่งหากใครเป็นมือใหม่อยากฝึกเล่นสกี แนะนำให้มาได้ตั้งแต่ช่วงธันวาคม-มีนาคมของทุกปี

เช้านี้เราเริ่มกิจกรรมด้วยการเดินสำรวจภูเขาหิมะบริเวณโรงแรมก่อนจะเข้าคอร์สฝึกเล่นสกีบอร์ดในช่วงบ่าย เล่นไม่ยากแค่ทรงตัวให้ดีเป็นพอจะได้ไม่กลิ้งกระแทกหิมะ

ส่วนใครที่อยากทำกิจกรรมต่อก็มีให้เลือก ทั้งสโนว์ชูวอล์กกิ้ง (snow shoe walking) หรือการเดินสำรวจรอบบนหิมะ ซึ่งจะมีไกด์พาเดินไปรอบใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าต้องการความตื่นเต้น ต้องลองขับสโนว์โมบิล หรือกิจกรรมล่องแก่งหิมะ พร้อมเพิ่มความเร้าใจ ปิดท้ายด้วยสุนัขลากเลื่อน (dog sledding) ให้ได้ทดลองฝีมือการบังคับทิศทางลากเลื่อนของน้องหมา

แต่ถ้ายังไม่เต็มอิ่มก็ต้องไม่พลาดกับกิจกรรมประลองความเร็วด้วยการขี่สโนว์ไบก์ ชมวิวธรรมชาติกลางหิมะ ก่อนแวะพักทานอาหารเย็นที่ห้องอาหาร Oktober Fast ที่มีอาหารญี่ปุ่นแบบออริจินอลให้ได้เลือกหลากหลาย

ส่วนใครที่มาหลายวันไม่ต้องกลัวเบื่อ เพราะภายในโรงแรมแห่งนี้มีร้านอาหารถึง 9 แห่ง แถมกิจกรรมพักผ่อนอย่างการแช่ออนเซน หรือสวนสนุกย่อม ๆ ที่มีม้าหมุนไว้คอยบริการ ให้ได้นั่งย้อนวัยแบบชิลให้ผ่อนคลาย หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศมาดูสัตว์ทางโรงแรมก็มีโซนให้เข้าชมพาหนะของ “ลุงซานต้า” อย่างกวางเรนเดียร์ได้แบบใกล้ชิด

หลังจากใช้เวลาทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ท่ามกลางหิมะมา 3 วัน 2 คืน ก่อนได้เวลาเดินทางต่อเข้าเมืองซัปโปโร โดยเดินทางด้วยโซเชียลบัส (social bus) ที่ให้บริการรถบัสเช่าเหมาคัน รับ-ส่งถึงประตูบ้านและที่พักทั่วเกาะฮอกไกโด

ระหว่างทางก็ยังมีเวลาเหลือสำหรับแวะชมทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) ทะเลที่มีต้นกำเนิดจากปากปล่องภูเขาไฟ มีขนาดเส้นรอบวงประมาณ 40 กิโลเมตร ซึ่งความพิเศษอยู่ที่น้ำในทะเลสาบแห่งนี้จะไม่จับตัวเป็นน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาวเหมือนแหล่งน้ำอื่น ๆ ก็เดินทางต่อ

“โซเชียลบัส” วิ่งเลาะภูเขามาเรื่อย ๆ ใช้เวลาไม่นานก็ถึงเป้าหมาย คือ โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) ที่เป็นต้นตำรับของคุกกี้ชื่อดัง ซึ่งภายในโรงงานแห่งนี้แบ่งออกเป็นหลาย ๆ ส่วน ทั้งร้านค้า พิพิธภัณฑ์ และไฮไลต์คือ การเดินชมกระบวนการผลิตคุกกี้แสนอร่อย

หลังจากนั้นก็แวะทานซุปแกงกะหรี่ที่ร้าน Soup Curry Cocoro ซึ่งสามารถเลือกความเผ็ดของซุปได้ถึง 5 ระดับ พร้อมขนาดข้าวในไซซ์ S M L ได้ตามใจ

ปิดท้ายทริปนี้ด้วยกิจกรรมยามค่ำคืน กับการเดินชมทีวี ทาวเวอร์ ที่มีความสูงถึง 150 เมตร ตั้งอยู่กลางเมืองซัปโปโรให้ได้ดูวิวแบบ 360 องศาอย่างชัดเจน และเตรียมตัวเข้าพักผ่อนที่โรงแรมนิว โอตานิ โฮเทล (New Otani Hotel) โรงแรม 5 ดาว ขนาด 340 ห้อง ซึ่งตัวโรงแรมตั้งอยู่ห่างจากสวนโอโรดิ โดยใช้เวลาเดิน 5 นาที

จบทริป บินตรงไปซัปโปโรกับนกสกู๊ตแบบฟิน ๆ เพราะได้สัมผัสทั้งบรรยากาศหนาวและทำกิจกรรมกลางหิมะแบบแน่น ๆ และไม่เพียงเท่านี้ “นกสกู๊ต” ยังมีเส้นทางบินตรงสู่เมืองโตเกียวและโอซากา ใครชอบบรรยากาศแบบไหนเลือกใช้บริการสิ่งที่ใช่ได้ตามที่ชอบ…