สทน.เร่ง “ไทยเที่ยวไทย” ดีไซน์แพ็กเกจทัวร์รอมาตรการรัฐ

สัมภาษณ์

หลังจากตั้งรับกับกระแสการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (ไวรัสอู่ฮั่น) จากจีนมาได้ 2 สัปดาห์ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างประเมินสถานการณ์ในทิศทางเดียวกันว่า กระแสดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเร็วสุดไม่น่าต่ำกว่า 3 เดือน หรือช้าสุดก็ไม่น่าจะเกิน 6 เดือน โดยคาดว่าวิกฤตครั้งนี้จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้ในภาคธุรกิจท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท

ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ เมื่อ31 มกราคมที่ผ่านมาจึงได้ออกมาตรการพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยแบบเร่งด่วน (กุมภาพันธ์-เมษายน) เพื่อเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยว โดยเน้นบริษัทนำเที่ยว โรงแรม ฯลฯ ทุกส่วนที่ได้รับผลกระทบ อาทิ จัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ, ยืดระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ย 6 เดือน สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว, ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน, ปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงของอากาศยาน เป็นต้น รวมถึงการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศในรูปแบบต่าง ๆ

เพิ่มดีกรีเร่ง “ไทยเที่ยวไทย”

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “ภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์” นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ถึงแนวคิดและแนวทางการตั้งรับของกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายในประเทศรอบนี้ไว้ดังนี้

“ภูริวัจน์” บอกว่า ทุกครั้งที่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยเกิดวิกฤตและส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและรายได้การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ภาครัฐจะหันมาเพิ่มน้ำหนักทำตลาดเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทย เพื่อชดเชยรายได้จากต่างประเทศบางส่วนที่หายไป

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบการภาคเอกชนเองยังรอความชัดเจนเรื่องมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศอยู่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนบ้าง ซึ่งจากที่ได้รับฟังแนวทางของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ได้พูดถึงแนวทางและกรอบกว้าง ๆ นั้น มองว่ายังไม่กระตุ้นมากนัก ที่สำคัญภาครัฐเองก็คงรอดูเรื่องงบประมาณด้วยเช่นกัน

“ในระหว่างที่เรารอดูมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของภาครัฐอยู่นี้ ทางสมาคมได้พยายามเรียกสมาชิกกว่า 500 ราย ทั้งกลุ่มบริษัททัวร์, โรงแรม, รถนำเที่ยว, เรือนำเที่ยว, ร้านอาหาร, แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ มาร่วมด้วยกันว่าเราจะช่วยเหลือกันอย่างไร ช่วงนี้จะทำราคาหรือจัดเส้นทางการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างไร ถึงจะช่วยดึงดูดให้คนไทยหันมาเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น และทำให้เห็นผลชัดเจนให้ได้ภายใน 3 เดือนนี้”

แนะรัฐอัดยาแรง-ตรงเป้า

“ภูริวัจน์” บอกด้วยว่า ที่ผ่านมาทางสมาคมได้ประชุมหารือร่วมกับสมาชิกทุกภาคส่วน พร้อมสำรวจความเสียหายและความต้องการที่อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วย และร่วมกันขับเคลื่อนภาคธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศให้โตได้ทั้งระบบ พร้อมทั้งเตรียมนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ให้กับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และนายกรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลเพื่อที่จะได้พิจารณาออกมาตรการกระตุ้นให้ตรงเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่แท้จริง

เพราะไม่อยากให้มาตรการกระตุ้นของรัฐรอบนี้ออกมาเหมือนโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” เนื่องจากเอกชนท่องเที่ยวมองว่าโครงการดังกล่าวเป็นช้อปช่วยชาติมากกว่าการะกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์จาก “ชิม ช้อป ใช้”เพียงแค่ 20-30% เท่านั้น ที่สำคัญยังทำให้เงินไม่กระจายสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้ครบวงจรอย่างแท้จริง

“รอบนี้เราอยากให้รัฐอัดฉีดเงินมาที่ภาคเอกชนโดยตรง และให้บริษัททัวร์เป็นหน่วยบริหารจัดการแพ็กเกจนำเที่ยวภายในประเทศ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศของเรามีผู้ประกอบการจากทุกภาคส่วนเป็นสมาชิก สามารถบริหารและกระจายงานไปยังทุกภาคส่วนได้ตรงเป้าหมายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รถ ร้านอาหาร สินค้าชุมชน ฯลฯ”

ดีไซน์ทำแพ็กเกจทัวร์รอ

นายก สทน.ยังบอกด้วยว่า โดยแนวทางหลัก ๆ ของ สทน.รอบนี้มีแผนที่จะนำเสนอการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มผู้สูงอายุ อาทิ ให้คูปองเงินสดกลุ่มผู้สูงอายุมาซื้อแพ็กเกจทัวร์กับบริษัททัวร์

และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ทั้งแพ็กเกจท่องเที่ยว ประชุมสัมมนา หรือกิจกรรมซีเอสอาร์ ฯลฯ เพื่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นต้น

โดย สทน.เตรียมนำเสนอการท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ วัฒนธรรม การเกษตร ฯลฯ ไว้รองรับแล้ว ซึ่งทางผู้ประกอบการได้เตรียมออกแบบโปรแกรมรอไว้แล้ว หากภาครัฐเคาะมาตรการออกมา ทุกส่วนพร้อมเดินหน้าได้ทันที

วอนอัดฉีดงบ ทุกเซ็กเตอร์

“ตอนนี้บริษัททัวร์ก็จับมือกับโรงแรม, รถบัส, ร้านอาหาร ฯลฯ เพื่อทำแพ็กเกจราคาพิเศษกันแล้ว เพราะทุกภาคส่วนแย่หมด แต่เชื่อว่าถ้าได้ยาแรง ๆ ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยเราก็น่าจะเดินต่อไป ประเด็นนี้คือสิ่งที่เราอยากคุยกับภาครัฐ เพราะอยากให้มาตรการออกมาตรงเป้า เพื่อให้ทุกซัพพลายเชนเดินต่อไปด้วยกันได้ อีกอย่างที่ผ่านมามาตรการที่ออกมาส่วนใหญ่ไปช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางเองเป็นหลัก ทำให้เงินไม่ได้เข้าถึงวงจรของธุรกิจท่องเที่ยวทุกเซ็กเตอร์อย่างแท้จริง”

พร้อมทิ้งท้ายว่า ในฐานะที่ สทน.เป็นสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และผู้ประกอบการเอกชนคนไทยหวังว่ารอบนี้รัฐบาลน่าจะมองในมุมเดียวกับเอกชนบ้างที่สำคัญภาคเอกชนก็พร้อมที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนทันทีที่มาตรการภาครัฐออกมา เพื่อให้ทุกเซ็กเตอร์ในวงจรธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงประคับประคองตัวเองเดินหน้าไปและเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ในยามวิกฤตนี้