ทุนใหญ่รุกลงทุนโรงแรม มั่นใจท่องเที่ยวไทยยังโต

กลุ่มทุนโรงแรมเดินหน้าลงทุนตามแผน มั่นใจภาคท่องเที่ยวไทยมีศักยภาพสูง ยันไวรัสโควิด-19 กระทบระยะสั้น “คาร์ลตัน” ประกาศเปิดตัวโรงแรมหรูแห่งแรกใจกลางกรุงเทพฯ ด้านกลุ่มทุนใหม่ “บ้านสำราญราษฎร์” ทุ่ม 200 ล้านแจ้งเกิด “วิลล่า เดอ พระนคร”ปักธงแลนด์มาร์กใหม่เกาะรัตนโกสินทร์

นายมาร์ค บุลเมอร์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท เปิดเผยว่า แม้ว่าขณะนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยจะประสบกับปัญหาวิกฤตไวรัสโควิด-19 แต่กลุ่มบริษัทยังคงเดินหน้าเปิดให้บริการโรงแรมตามแผนที่วางไว้ โดยโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกของแบรนด์คาร์ลตันในประเทศไทย เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โรงแรมแห่งนี้ให้เป็นโรงแรมระดับอัปเปอร์อัปสเกล ขนาด 338 ห้องพัก ในอาคารสูง 34 ชั้น ตั้งอยู่บนย่านยุทธศาสตร์ของถนนสุขุมวิท

“วิกฤตการณ์ครั้งนี้เป็นความท้าทายสำหรับโรงแรมที่กำลังจะเปิดให้บริการ แต่คาร์ลตันตั้งใจที่จะเดินหน้าตามแผนการที่เราได้วางเอาไว้ยาวนานอย่างรอบคอบ โดยบริษัทจะใช้เวลาช่วงนี้ในการทำการตลาดอย่างหนัก และดึงดูดผู้เข้าพักเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่คาร์ลตันสามารถมอบให้ด้วยตัวของพวกเขาเอง เพื่อที่จะสะสมชื่อเสียงให้กับแบรนด์คาร์ลตันในประเทศไทย เพื่อที่จะนำพาแบรนด์ของเราไปยืนอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นต่อไปในอนาคต”

นอกจากนี้ คาร์ลตันยังได้เร่งอบรมพนักงานอย่างเข้มงวดให้ได้บริการในระดับมาตรฐานและให้สถานประกอบการสามารถทำงานภายใต้การควบคุมโรคได้ โดยคาร์ลตันเชื่อว่าดีมานด์ในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยยังมีอยู่มาก และเมื่อไรที่สถานการณ์เริ่มนิ่ง นักท่องเที่ยวก็จะทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้งภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน เหมือนกับทุก ๆ ครั้งก่อนหน้าที่ประเทศไทยสามารถฟื้นคืนจากวิกฤตการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

“เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในระดับโลก และสะเทือนต่อโรงแรมในกรุงเทพฯทุกแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกำลังอยู่ในฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยยอมรับว่าตลาดจีนเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างมาก ทำให้ผลกระทบก็ทวีมากขึ้นตามไปด้วย” 

อย่างไรก็ตาม ตลาดในประเทศถือว่ายังมีความเคลื่อนไหว การยกเลิกการจองห้องพักจากฝั่งฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ถูกทดแทนด้วยการกลุ่มประชุมสัมมนา อีเวนต์ และงานแต่งที่ทยอยจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นายมาร์คกล่าวต่อว่า เป็นเรื่องแน่นอนที่แผนการคืนทุนของโรงแรมจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดครั้งนี้ แต่โรงแรมจะเดินหน้าเข้าสู่ตลาดด้วยเป้าหมายที่จะผลักดันอัตราการจองห้องพักให้ได้ทัดเทียมกับโรงแรมอื่น ๆ ในย่านเดียวกันภายในปีแรกของการเปิดให้บริการ โดยยืนยันว่ากลุ่มจะโฟกัสกับการพัฒนาโครงการนี้ให้สำเร็จก่อนที่จะมองหาโอกาสในการลงทุนอื่น ๆ ที่เหมาะสมต่อไป

เช่นเดียวกับ นายแพทย์ก่อเกียรติ กิตติสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บ้านสำราญราษฎร์ จำกัด เจ้าของโรงแรมวิลล่า เดอ พระนคร ที่เปิดเผยว่า แม้ช่วงนี้ภาคการท่องเที่ยวของไทยกำลังเผชิญอยู่กับภาวะวิกฤตของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทยังเชื่อมั่นในศักยภาพของการท่องเที่ยวไทยและกรุงเทพฯว่า
ยังเป็นเมืองที่มีโอกาสในการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวได้อีกมาก ที่สำคัญ คาดว่ากระแสการแพร่ระบาดของไวรัสน่าจะสามารถควบคุมได้ใน 3-4 เดือนข้างหน้า บริษัทจึงตัดสินใจเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ “วิลล่า เดอ พระนคร” ใจกลางย่านสามยอด เขตมรดกแห่งวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ และเกาะรัตนโกสินทร์

โดยโรงแรมแห่งนี้ใช้งบฯลงทุนไปราว 200 ล้านบาท พัฒนาอาคารที่เป็นมรดกตกทอดมากว่า 100 ปี ให้กลายเป็นโรงแรมหรูขนาด 47 ห้องพักเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการระดับห้าดาว ซึ่งบริหารโดย “ยูนิคอร์ ฮอสพิทัลลิตี้”(Unicor Hospitality) ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานโรงแรมบูติคแนวสมัยใหม่

ทั้งนี้ ตั้งเป้าอัตราการเข้าพักไว้ที่ 10-20% ในช่วง 6 เดือนแรกของการเปิดให้บริการ และเพิ่มขึ้นเป็น 60% ภายใน 2 ปี โดยกลุ่มลูกค้าจะโฟกัสไปที่กลุ่มระดับบน (upper-middle) ขึ้นไปที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยววัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชน บวกรวมกับการพักผ่อนที่เหนือระดับ โดยจะทำการตลาดกับทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นชาวยุโรป สแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย อินเดีย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีน