ไมเนอร์ฯ เปิดรร.ใหม่ 73 แห่งในอีก 3 ปี

“ไมเนอร์ฯ” เปิดแผนลงทุน 3 ปีพร้อมเปิดโรงแรมใหม่อีก 73 แห่งภายในปี’66 พร้อมปรับตัวรับมือโควิด-19 หันโฟกัสเข้าพื้นที่ไม่กระทบ-ประหยัดต้นทุน เผยผลประกอบการปี’62 รายได้พุ่ง 1.29 แสนล้าน หลังปิดดีลซื้อ NHH-ขายโรงแรมมัลดีฟส์ 3 แห่ง

นางจุฑาทิพ อดุลพันธุ์ รองประธานฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2566 ว่า บริษัทมีแผนขยายโรงแรมเพิ่มขึ้นอีก 73 แห่ง รวมทั้งสิ้น 14,357 ห้องพัก แบ่งเป็นโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของ 24 แห่ง หรือ 4,297 ห้อง และโรงแรมที่รับบริหารงานอีก 49 แห่ง หรือ 10,060 ห้องโดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้อย่างน้อย 8% ต่อปี และมีกำไรจากการดำเนินงานสุทธิมากกว่า 15-20% ต่อปี

นางจุฑาทิพกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมากระทบรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักของกลุ่มลดลงประมาณ 3-4% อย่างไรก็ตามตลาดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ประเทศไทย บริษัทจึงเตรียมที่จะผลักดันรายได้ในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าและส่งเสริมให้มีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น  

นอกจากนี้ยังควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย โดยลดชั่วโมงการทำงานของพนักงาน  อนุญาตให้ลาโดยไม่จ่ายเงินเดือน รวมถึงพิจารณาการจ่ายเงินเดือนของผู้บริหารระดับสูง นอกจากนั้นยังมีการหารือกับซัพพลายเออร์เพื่อลดต้นทุนในทั่วทุกภูมิภาคที่ประกอบกิจการอยู่

นางจุฑาทิพกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีสัดส่วนรายได้จากการประกอบการอยู่ในธุรกิจโรงแรม 76% ธุรกิจอาหาร 20% และธุรกิจไลฟ์สไตล์ 4% และในปี 2562 ที่ผ่านมา โรงแรมของกลุ่มมีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นจาก 52,969 ห้อง มาเป็น 54,255 ห้อง หรือเติบโตราว 2% มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเติบโตประมาณ 3% จากปีก่อน 

“การรวมกิจการโดยซื้อเอ็นเอชเอช ทำให้กลุ่มมีรายได้จากโรงแรมที่เป็นเจ้าของและเช่าเพิ่มขึ้น 112%” นางจุฑาทิพกล่าวและว่า นอกจากนั้น บริษัทยังมีการประกอบการอยู่ใน 57 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นสัดส่วนกำไรสุทธิหลังหักภาษีจากภูมิภาคยุโรป 58% ประเทศไทย 18% มัลดีฟส์และตะวันออกกลาง 14% ทำให้ 3 ภูมิภาคนี้เป็นแหล่งรายได้หลักของกลุ่มในปัจจุบัน 

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาแม้ไทยจะเผชิญกับสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่า โรงแรมได้รับผลกระทบ แต่ในมัลดีฟส์ยังคงแข็งแกร่งจากการเติบโตของค่าห้องพักจากการเจาะตลาดที่ถูกกลุ่มเป้าหมาย แม้จะมีอัตราการเข้าพักและรายได้ห้องพักลดลง แต่ยังมีกำไรจากการขายโรงแรมในมัลดีฟส์ 3 แห่ง ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามกลยุทธ์การหมุนเวียนสินทรัพย์ในช่วงไตรมาสที่ 4