ททท.ลุยงานเอ็กซ์โปเจแปน ชี้ปัญหาเกาหลีไร้ผลกระทบ

“ททท.” ลุยงานเทรดโชว์ “ทัวริซึ่ม เอ็กซ์โป เจแปน 2017” คาดสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีไม่กระทบตลาดญี่ปุ่นเที่ยวไทย พร้อมเตรียมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน “พาต้า แทรเวล มาร์ท” ปี 2562

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมเข้าร่วมงานเทรดโชว์ “ทัวริซึ่ม เอ็กซ์โป เจแปน” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 21-24 กันยายนนี้ เพื่อส่งเสริมการขายตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้มาเที่ยวไทย ทั้งนี้ งานทัวริซึ่ม เอ็กซ์โป เจแปนในปีนี้ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการจัดงาน จากเดิมที่เน้นตลาดต่างประเทศก็หันมาให้น้ำหนักตลาดในประเทศ

โดยโปรโมตการเดินทางไปต่างจังหวัดในญี่ปุ่นมากขึ้น ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวของรัฐบาล โดยมีปัจจัยหนุนอย่างโครงสร้างพื้นฐานการเดินทางสู่ต่างจังหวัดที่สะดวกสบายทั้งระบบราง และระบบทางอากาศ

“ประเทศญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพจัดงานแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกไว้ที่ 40 ล้านคน จากแนวโน้มดังกล่าว อาจทำให้ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติไปญี่ปุ่นแซงยอดต่างชาติมาไทยได้”

สำหรับสถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวไทยนั้น นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า คาดว่าเหตุการณ์ที่เกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธบินข้ามเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะไม่กระทบต่อจิตวิทยาและกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย

นายยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า ททท.กำลังจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกับสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือพาต้า (PATA : The Pacific Asia Travel Association) จัดงานพาต้า แทรเวล มาร์ท (PATA Travel Mart) ในเดือนกันยายนปี 2562 ต่อจากเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพปี 2561 ส่วนสถานที่อาจเป็นเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือจังหวัดภูเก็ต หลังไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้มาแล้ว 2 ครั้ง คือ เมื่อปี 2527 และ 2547

นอกจากนี้ ยังเข้ากับแนวคิดการกระจายงานเทรดโชว์ส่งเสริมการขายสินค้าท่องเที่ยวไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น หลังได้ข้อสรุปไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมาว่าจะจัดงานไทยแลนด์ แทรเวล มาร์ท (ทีทีเอ็ม) ปี 2561 ที่เมืองพัทยา และอาจจัดต่อเนื่องในปี 2562 ด้วย ขณะที่งานอาเซียน ทัวริซึ่ม ฟอรั่ม (เอทีเอฟ) นั้น ได้เตรียมจัดที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 22-26 มกราคมปี 2561

“เนื่องจากในปีหน้า ททท.มี 2 งานเทรดโชว์ที่ต้องจัด คือ เอทีเอฟกับทีทีเอ็ม จึงมองว่าหากได้เป็นเจ้าภาพร่วมจัดงานพาต้า แทรเวล มาร์ท ที่เกาะสมุย หรือภูเก็ตในปี 2562 อีกงาน ก็จะช่วยทำให้ภาพรวมการจัดงานเทรดโชว์ขนาดใหญ่ กระจายไปยังต่างจังหวัดของไทย และครอบคลุมทุกภูมิภาคมากขึ้น ไม่กระจุกแค่ในกรุงเทพฯ โดยอาจใช้งบประมาณในการจัดราว 35-60 ล้านบาท” นายยุทธศักดิ์กล่าว และว่า สำหรับประโยชน์ของการจัดงานเทรดโชว์ด้านท่องเที่ยว ทำให้ประเทศไทยรู้ว่าประเทศคู่แข่งกำลังทำอะไร มีกลยุทธ์อะไรมาเสนอขายนักท่องเที่ยว ที่สำคัญหลาย ๆ ประเทศสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันได้ด้วย

ทั้งนี้ มองว่างานพาต้า แทรเวล มาร์ท เป็นงานเทรดโชว์ที่มีศักยภาพ เพราะเอเชีย-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูง จากการหลั่งไหลของตลาดนักท่องเที่ยวขาออก (เอาต์บาวนด์) ทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบการจัดงานใหม่ ๆ สอดแทรกเข้ามา ที่น่าสนใจมี “ชี เทรด” (She Trade) หรือการจัดพื้นที่ส่งเสริมการขายสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของให้เข้าสู่ตลาด หากไทยได้เป็นเจ้าภาพพาต้า แทรเวล มาร์ท คาดว่าจะเชื่อมโยงการจัดงานสู่ระดับชุมชนได้ ด้วยการดึงกลุ่มสตรีและแม่บ้านผู้พัฒนาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและบริการมานำเสนอสินค้าภายในงาน สอดรับกับนโยบายส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีของรัฐบาลด้วย

สำหรับงานพาต้า แทรเวล มาร์ท 2017 ซึ่งจัดขึ้นที่เดอะ เวเนเชียน มาเก๊า รีสอร์ต โฮเต็ล เขตปกครองพิเศษมาเก๊า ททท.ได้ส่งผลงานเข้าประกวดรางวัลพาต้า โกลด์ อวอร์ดส์ 2017 โดยโครงการส่งประกวดจากไทย ได้รับรางวัล 4 ประเภท แบ่งเป็นผลงานที่ ททท.ส่งเข้าประกวด 2 รางวัล และภาคเอกชนส่งประกวดอีก 2 รางวัล ประกอบด้วย 1.โครงการวิลเลจ ทู เดอะ เวิลด์ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม (ซีเอสอาร์) 2.หนังสือคู่มือส่งเสริมการท่องเที่ยว บลู พาราไดส์ ไทยแลนด์ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแทรเวลเจอร์นัลลิซึ่ม กลุ่มแทรเวล ไกด์บุ๊ก 3.เอลเลเฟ่นต์ ฮิลส์ ลักเซอรี่ เทนต์ แคมป์ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทเอ็นไวรอนเมนต์อีโคทัวริซึ่มโปรเจ็กต์ และ 4.มวยไทย ไลฟ์ แบงค็อก ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทเฮอริเทจแอนด์คัลเจอร์ ในกลุ่มคัลเจอร์