Lockdown ทั่วโลก ทุบรายได้ท่องเที่ยวไทยวูบ 1 ล้าน ล.

ฉีกโผทุกสำนักไปแล้วสำหรับการคาดการณ์ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ จากเดิมที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่ากระแสการแพร่ระบาดของไวรัสนี้จะเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงปลายเดือนมีนาคมหรืออย่างช้าที่สุดน่าจะราวเดือนเมษายน-พฤษภาคม และจะเริ่มฟื้นตัวและกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงไตรมาส 3 หรือช้าที่สุดไม่เกินไตรมาสสุดท้ายของปี

ปัจจุบันไวรัสโควิดได้แพร่ระบาดไปอยู่ในทุกประเทศทั่วโลกอย่างรวดเร็ว หลายประเทศประกาศ Lockdown ปิดการเดินทางเข้า-ออกประเทศเป็นการชั่วคราว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างหนัก

นักท่องเที่ยววูบทุกตลาด

สำหรับประเทศไทยนั้น “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า สถานการณ์ยังหนักต่อเนื่อง จากสถิติของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยว พบว่า ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา (ไวรัสโควิดส่งผลกระทบช่วงปลายเดือนมกราคม) ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.81 ล้านคน จากจำนวน 3.72 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 2.46% 

โดยนักท่องเที่ยวจีนยังเป็นกลุ่มที่มีจำนวนสูงสุดอันดับ 1 จำนวน 1.03 ล้านคนลดลง 3.71% รองลงมาคือ มาเลเซีย 3.2 แสนคน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 20.31%, รัสเซีย 2.5 แสนคน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.24% เดือนกุมภาพันธ์มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.04 ล้านคน จากจำนวน 3.6 ล้านคน หรือลดลง 43.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดจีนซึ่งครองอันดับสูงสุดอันดับ 1 มาตลอดตกลงไปอยู่อันดับ 3 ด้วยจำนวน 1.5 แสนคนลดลง 85.34% ส่วนตลาดที่ขึ้นเป็นอันดับ 1 คือรัสเซีย 2.1 แสนคนเพิ่มขึ้น 12.47% อันดับ 2 คือมาเลเซีย 1.9 แสนคน ลดลง 39.63%

และเดือนมีนาคม (1-11 มีนาคม) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5.5 แสนคนจากจำนวน 1.29 ล้านคน หรือลดลง 57.26% เมื่อเทียบกับมีนาคม 2562 โดยตลาดที่มีนักท่องเที่ยวมากสุดอันดับ 1 คือ รัสเซีย 6.78 หมื่นคน ลดลง 11.55% ตามด้วย มาเลเซีย 5.91 หมื่นคน ลดลง 46.49% ส่วนจีนติดอันดับ 4 มีจำนวน 5.25 หมื่นคน ลดลง 84.34%

นทท.ปีนี้มีสิทธิ์เหลือ 10 ล้านคน

จากแนวโน้มดังกล่าวนี้ “พิพัฒน์” ประเมินว่า ถ้าหากการแพร่ระบาดของไวรัสสิ้นสุดในเดือนกรกฎาคมจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีนี้อยู่ที่ 27 ล้านคน หรือหายไปราว 12-13 ล้านคน แต่หากสิ้นสุดกันยายนคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยในปีนี้น่าจะอยู่ที่ราว 20 ล้านคนหรือหายไปเกือบ 20 ล้านคน 

และถ้าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดลากยาวไปจนถึงสิ้นปี ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยอาจจะลดลงเหลือเพียงแค่ประมาณ 10 ล้านคน หรือหายไปราว 30 ล้านคน

มี.ค.รัสเซียทำรายได้สูงสุด

“ตั้งแต่วันที่ 1-16 มีนาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย 37,037 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 61.12% โดยนักท่องเที่ยวสัญชาติที่ลดลงมากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลดลง 99.94% ซาอุดีอาระเบีย ลดลง 96.85% และคูเวต ลดลง 96.20% ขณะที่นักท่องเที่ยวสัญชาติที่ทำรายได้สูงสุด ได้แก่ รัสเซีย 6,348 ล้านบาท และเป็นชาติเดียวที่เติบโต รองลงมาคือ สหราชอาณาจักร 2,737 ล้านบาท และเยอรมนี 2,565 ล้านบาท”

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงคาดหวังว่าสถานการณ์โควิด-19 จะยุติการแพร่ระบาดในประเทศไทยได้ภายในเดือนเมษายนนี้ โดยเชื่อว่าถ้าภายในสิ้นเดือนนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจะไม่ขยับเพิ่มขึ้นและเริ่มนิ่งขึ้นเป็นลำดับ เพื่อให้ประเทศไทยมีเวลาสำหรับฟื้นฟูและดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเดินทางภายในประเทศ

จ่อเร่งฟื้นท่องเที่ยวในประเทศ

ทั้งนี้ ได้วางแผนไว้ว่าทันทีที่สถานการณ์สิ้นสุด กระทรวงจะเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศก่อนทันทีผ่านการผลักดันให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ออกสัมมนาข้ามจังหวัด และข้ามภาคต่อไป

สำหรับประเด็นเทศกาลสงกรานต์ที่มีประกาศคณะรัฐมนตรีให้ไม่ถือเป็นวันหยุดนั้น “พิพัฒน์” บอกว่า กระทรวงเตรียมหารือกับคณะรัฐมนตรีว่าจะสามารถโยกวันหยุดไปไว้ในเดือนกรกฎาคม เพื่อให้เป็นวันหยุดต่อเนื่องจากวันหยุดชดเชยอาสาฬหบูชาได้หรือไม่ เพื่อให้มีวันหยุดยาวติดต่อกัน 7 วัน 

อย่างไรก็ตาม คงพิจารณาอีกครั้งว่าสถานการณ์โดยรวมในช่วงดังกล่าวมีแรงจูงใจพอจะจัดเทศกาลรื่นเริงหรือไม่ ถ้ามีความเป็นไปได้ก็อาจจะมีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ

รายได้ ตปท.วูบ 5-7 แสนล้าน

ด้าน “ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ให้ข้อมูลว่า จากการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบัน สทท.คาดการณ์ว่าในกรณีที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดยุติในเดือนกรกฎาคม ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวอินบาวนด์ (ขาเข้า) ลดลงประมาณ 30-40% หรือลดลงประมาณ 11.7-15.7 ล้านคน เหลือเพียง 24-28 ล้านคน จากจำนวน 39.8 ล้านคนในปี 2562

และส่งผลกระทบต่อรายได้ทางด้านการท่องเที่ยวลดลงไปราว 5.44-7.40 แสนล้านบาท หรือเหลือมูลค่ารวมประมาณ 1.19-1.39 ล้านล้านบาทในปีนี้ จากมูลค่า 1.93 ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านมาสูญรายได้รวม 1 ล้านล้าน

ในขณะที่ตลาดในประเทศนั้น “ชัยรัตน์”คาดว่าคนไทยจะมีการเดินทางท่องเที่ยวปีนี้ที่ราว 166.84 ล้านคน-ครั้ง โดยคาดว่ารายได้จากการเดินทางภายในประเทศจะลดลง 20-25% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2-2.5 แสนล้านบาท หรือเหลือรายได้จากนักท่องเที่ยวภายในประเทศมูลค่าราว 1.08 ล้านล้านบาท 

นั่นหมายความว่า รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งอินบาวนด์และภายในประเทศปีนี้น่าจะลดลงไปประมาณ 7.5-9.9 แสนล้านบาท หรืออาจถึง 1 ล้านล้านบาท  

ไม่เพียงเท่านี้ ยังคาดการณ์ด้วยว่าผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบจนอาจมีการปิดตัวอย่างน้อย 5,000-10,000 ราย จากจำนวนผู้ประกอบการทั้งหมดในปัจจุบันราว 50,000 ราย และส่งผลกระทบต่อการจ้างงานจากตำแหน่งงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวราว 4 ล้านตำแหน่งงาน

กระทบแรงงาน 3 ล้านตำแหน่ง

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ถูกเลิกจ้างงานไม่ต่ำกว่า 25-30% หรือคิดเป็นจำนวน 1-1.2 ล้านตำแหน่งงาน และมีผู้ถูกลดรายได้จากการถูกลดเงินเดือน การพักงานและการลางานโดยไม่รับเงินเดือนรวมกว่า 3 ล้านตำแหน่ง

พร้อมทั้งย้ำว่า ขณะนี้เอกชนท่องเที่ยวยินดีสนับสนุนรัฐบาล โดย สทท.พร้อมทั้งสมาคมท่องเที่ยว 13 สมาคมมีความเห็นตรงกันว่าพร้อมให้ความร่วมมือในการควบคุมการแพร่ระบาดในระดับสูงสุด โดยพร้อมที่จะลดหรืองดกิจกรรมทางการท่องเที่ยวเป็นเวลา 15-30 วัน และดำเนินมาตรการทางด้านความปลอดภัยสูงสุดตามที่รัฐบาลกำหนด

ขณะเดียวกัน ก็อยากให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนของการเยียวยาผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้มีความชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากกว่า 2 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้เลยแม้แต่รายเดียว