ททท.หนุน “safetyTourism” เรียกความเชื่อมั่นเที่ยวไทย

file. Photo by Paula Bronstein/Getty Images)

ททท.ทำใจนักท่องเที่ยวต่างชาติหายตามสถานการณ์ วางแผนซ่อม-สร้าง ชู safety tourism เรียกความเชื่อมั่น รองรับ new normal เชื่อแรงหนุนจากภาครัฐดัน “ไทยเที่ยวไทย” โตได้ราว 4% พร้อมเตรียมถอดบทเรียนโควิดมาเขย่าแผนปี”64

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทั่วโลกครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวทั้งในด้านจำนวนและรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงรูปแบบการท่องเที่ยวที่คาดว่าน่าจะปรับเปลี่ยนไปสู่ new normalซึ่งจะส่งผลให้โครงสร้าง รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป

โดยในส่วนของประเทศไทยนั้นยังอยู่ในภาวะที่ยากต่อการคาดการณ์ เนื่องจากไม่สามารถประเมินได้ว่าการแพร่ระบาดทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศจะยุติเมื่อไหร่ รวมถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสยุติลง

“ตอนนี้สถานการณ์ในจีนเริ่มดีขึ้น เราก็ให้สำนักงาน ททท.ทั้ง 5 แห่งมอนิเตอร์ว่าการตั้งรับและการวางแผนเชิงรุกของจีนเป็นอย่างไร โดยประเด็นสำคัญที่นักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญคือสุขอนามัยและความปลอดภัยของการเดินทางท่องเที่ยว” นายยุทธศักดิ์กล่าวและว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ ททท.ต้องเตรียมพร้อมคือทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้สึกว่าเมืองไทยแล้วปลอดภัย ทั้งเรื่องการเที่ยว การรับประทานอาหาร สถานที่พัก/โรงแรม, สถานที่จัดประชุมสัมมนา, การเดินทาง ฯลฯ

ทั้งนี้มองว่า หลังจากนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึงของประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม จะมี new normal ใหม่ มีการท่องเที่ยวแบบกระจายมากขึ้น นักท่องเที่ยวเดินทางกลุ่มเล็กลง ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ทุกคนจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งททท.เตรียมแผนทำเรื่องมาตรฐานด้านความปลอดภัย หรือ safety tourism รองรับแล้ว อาทิ ความปลอดภัยในการเดินทาง, อาหาร, โรงแรมที่พัก ฯลฯ

“ททท.เราพร้อมให้ความร่วมมือกับภาคเอกชนในการซ่อม สร้าง ทุก ๆ ส่วน รวมถึงร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขทำบิ๊กคลีนนิ่งในช่วงเดือนเมษายน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้คุยกับทางกระทรวงอุดมศึกษาฯ เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว เพื่อรองรับโมเดลใหม่ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น การใช้สื่อออนไลน์, การทำทัวร์สมัยใหม่ เป็นต้น เพื่อติดปีกผู้ประกอบการ” นายยุทธศักดิ์กล่าว

และเชื่อว่าปี 2563 นี้การท่องเที่ยวภายในประเทศจะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนตัวเลขรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยคาดว่าน่าจะสามารถขยายตัวได้ที่ราว 4% เนื่องจากเป็นตลาดที่มีแรงหนุนจากนโยบายภาครัฐ ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นขณะนี้ยังคงประเมินสถานการณ์ค่อนข้างยาก

นายยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสครั้งนี้ยังส่งผลกระทบถึงแผนการดำเนินงานปี 2564 ซึ่งได้จัดทำแผนใหญ่ให้สอดรับกับแผน 5 ปี (2560-2565) ของรัฐวิสาหกิจไปแล้ว ซึ่งได้ตั้งเป้าการขยายตัวของนักท่องเที่ยวที่ประมาณ 8% ซึ่งขณะนี้ทาง ททท.ได้เตรียมทำการศึกษาและถอดบทเรียนโควิดเพื่อนำมาปรับแผนการทำงานสำหรับปี 2564 ต่อไปแล้ว


“ตอนนี้เราไม่ได้ทำการตลาดเชิงรุก แต่เราก็เตรียมแผนการสื่อสารไว้แล้ว ว่าช่วงไหนจะสื่อสารอย่างไร เช่น ตอนนี้เราพยายามสื่อสารในมุมอีโมชั่นสร้างความรู้สึกดี ๆ เช่น ห่วงใยเมืองไทยก้าวไปด้วยกัน เป็นต้น” นายยุทธศักดิ์กล่าว