เปิดใจเจ้าของโรงแรม เปิดให้หมอสู้โควิด-19 พักฟรี

ธุรกิจโรงแรม เป็นหนึ่งในธุรกิจแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการ ในรายที่สายป่านไม่ยาวนัก ถึงกับต้องปิดกิจการ บ้างก็พักงานพนักงานในโรงแรม โดยไม่รู้ชะตากรรมว่าจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้เมื่อใด

ส่วนในรายที่ทุนค่อนข้างหนา ต้องปรับตัวอย่างหนัก และอาจไม่สามารถหวังผลเรื่องรายได้เหมือนในสถานการณ์ปกติ

“ซิซซา กรุ๊ป” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้บริหารโรงแรมนาใต้ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.พังงา ตัดสินใจเปิดให้แพทย์และนักท่องเที่ยว ที่ติดค้างจากสถานการณ์โควิด-19 เข้าพักฟรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับคน 2 กลุ่มนี้ ซึ่งกลุ่มหนึ่งเป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับไวรัส ส่วนอีกกลุ่มไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้

นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า ทางโรงแรมทราบว่านักท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากหลายประเทศ ยกเลิกเที่ยวบินจากต่างประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางกลับได้ ทางโรงแรมมีความเห็นใจ จึงประชุมและมีมติให้นักท่องเที่ยวที่ติดค้างในประเทศไทย ใช้บริการฟรี

“เราขอเป็นโรงแรมที่เริ่มต้น ช่วยแก้ปัญหาให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ เพราะธุรกิจเรา หากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ มันก็อยู่ไม่ได้ นักท่องเที่ยวเป็นคนให้เงินเรา ถือว่าช่วยเราดำเนินธุรกิจนะ วันหนึ่งหากเขากลับมา เขาอาจจะช่วยเหลือเราได้อีก” นายอรรถนพ กล่าว

กระทั่ง ต่อมา เหล่าบุคลากรทางการแพทย์ ได้ติดต่อเข้ามาขอพักที่โรงแรมด้วย

ทางโรงแรมจึงได้กำหนดเงื่อนไขในการเข้าพัก 2 แบบ ได้แก่ เงื่อนไขสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และ เงื่อนไขสำหรับนักท่องเที่ยว

นายอรรถนพ เผยว่า หากเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ต้องแสดงบัตรเจ้าหน้าที่หรือพนักงานในโรงพยาบาลที่สังกัด รวมถึงใบรับรองแพทย์ว่า ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง

ส่วนกรณีนักท่องเที่ยว ต้องมีใบรับรองแพทย์เช่นกัน รวมถึงเอกสารส่วนตัวต่างๆ เช่น หนังสือเดินทาง ประวัติคร่าว และ ตั๋วเครื่องบิน เพื่อยืนยันว่าเป็นนักท่องเที่ยวตกค้างจริงๆ

ห้องพักที่ให้บริการนั้น ให้พักได้ไม่เกิน 2 คน โดยแต่ละคนจะให้เข้าพักได้ไม่เกิน 14 วัน เพื่อป้องกันความปลอดภัย

เมื่อสอบถามถึงเรื่องต้นทุน จากการเปิดให้บุคลากรแพทย์และนักท่องเที่ยวเข้าพักฟรี นายอรรถนพ ตอบว่า ทางโรงแรมมีต้นทุนต้องแบก ทั้งการเปิดให้เข้าพักฟรี และการดูแลพนักงานกว่า 300 ชีวิต รวมทั้ง 2 โรงแรม แต่ทางโรงแรมก็ไม่มีนโยบายปลดพนักงาน ยังคงรับผิดชอบพนักงานไว้ในความดูแล

“เพราะเขาทำงานกับเรามานาน และผมก็ไม่อยากให้เขาขาดรายได้ สถานการณ์มันแย่อยู่แล้ว เราก็ไม่อยากไปซ้ำเติมเขา ทาง ซิซซา กรุ๊ป เอง ก็มีเงินสำรองจากการที่เราทำธุรกิจมานานเก็บไว้อยู่ และก็มีทุนส่วนตัวของผมที่นำออกมาใช้ ซึ่งคำนวณดูแล้ว โรงแรมใช้เงินเดือนละประมาณ 6 ล้าน พอจะอยู่ได้ประมาณ 4 เดือน ก็หวังว่าวิกฤตครั้งนี้ จะผ่านไปได้โดยเร็ว” เจ้าของโรงแรมกล่าว

เมื่อให้เปรียบเทียบเหตุการณ์ครั้งนี้กับเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 นายอรรถนพ ตอบว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบใหญ่กับภาคธุรกิจ มากกว่าสึนามิเสียอีก

“โควิดหนักกว่าสึนามิครับ หนักกว่าเป็น 10 เท่าเลย เพราะสึนามิเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่ได้เกิดทั่วโลก มันเกิดขึ้นแค่วันเดียวและจบ เศรษฐกิจอื่นๆ เลยไม่ได้รับผลกระทบ ภาคธุรกิจยังไปต่อได้ แต่โควิดเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเราเองก็ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ ยิ่งสถานการณ์ยาวนานมากเท่าไหร่ ผมว่ามันยิ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นนะ เพราะแสดงถึงความไม่ปลอดภัย คนไม่ออกไปเที่ยว เมื่อไม่มีการท่องเที่ยวก็ไม่มีการลงทุน กระทบกันไปเป็นลูกโซ่”

อย่างไรก็ตาม นายอรรถนพ ยืนยันว่า ไม่ได้รู้สึกท้อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคนทำธุรกิจต้องผ่านเส้นทางที่ยากลำบากกันมาอยู่แล้ว

ประชาชาติธุรกิจ นำเสนอซีรีส์ “รวมพลังสู้ โควิด-19” ภายใต้เนื้อหาที่มาจากประชาชน นักคิด นักเขียน ผู้รู้ นักธุรกิจ สตาร์ตอัพ ผู้ประกอบการทุกระดับ ที่นำเสนอแนวคิด ความรู้ และทางออกจากปัญหาไปด้วยกัน