“กรมการท่องเที่ยว” คาดกฎกระทรวงใหม่คืนเงินค้ำประกันบริษัททัวร์มีผลบังคับใช้ พ.ค.นี้

“กรมการท่องเที่ยว” ออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว เปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่จะขอคืนเงินหลักประกันในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่กำหนดตามกฎกระทรวงใหม่ คาดประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลใช้บังคับได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้

นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก ซึ่งส่งผลต่อการจ้างงานและความเป็นอยู่ของแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้กรมการท่องเที่ยวเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยการคืนหลักประกันของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ร้อยละ 70 ของวงเงินประกัน ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของกฎหมายที่จะออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา และคาดว่าจะมีผลใช้บังคับได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2563 นี้

นายทวีศักดิ์กล่าวว่า กฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินหลักประกัน พ.ศ. 2563 จะช่วยบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทั้งรายเดิมและรายใหม่ โดยกรมการท่องเที่ยวจะคืนเงินหลักประกันของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและปลดภาระผูกพันตามหนังสือค้ำประกันเฉพาะในส่วนที่ได้วางไว้เกินกว่าจำนวนที่กำหนดตามกฎกระทรวงดังกล่าว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. การประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภทเฉพาะพื้นที่ ต้องวางหลักประกันเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท 2. การประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภทภายในประเทศ ต้องวางหลักประกันเป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท 3. การประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภทนำเที่ยวจากต่างประเทศ ต้องวางหลักประกันเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท และ 4. การประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภททั่วไป ต้องวางหลักประกันเป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท

ทั้งนี้ กรณีผู้ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายใหม่ จะวางเงินหลักประกันตามจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงใหม่ ภายหลังราชกิจจานุเบกษามีผลใช้บังคับแล้ว ส่วนกรณีผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายเดิม (ซึ่งวางหลักประกันไว้แล้ว) สามารถยื่นคำขอคืนเงินหลักประกันที่ได้วางไว้เกินกว่าจำนวนที่กำหนดตามกฎกระทรวงใหม่ ได้ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ณ สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขากรุงเทพมหานคร และสาขาต่างจังหวัดทั้ง 5 สาขา โดยผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจะได้รับเงินหลักประกันคืนภายหลังราชกิจจานุเบกษามีผลใช้บังคับแล้วเท่านั้น

สำหรับวิธีการยื่นเอกสารขอรับหลักประกันส่วนที่วางไว้เกินคืน ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องยื่นเอกสารต่อสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาที่สถานประกอบธุรกิจนำเที่ยวตั้งอยู่ โดยสามารถยื่นได้ 2 ช่องทาง คือ ช่องทางที่1 ยื่นด้วยตนเอง ณ สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขากรุงเทพมหานครและสาขาต่างจังหวัด ทั้ง 5 สาข

ช่องทางที่ 2 ยื่นทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาที่สถานประกอบธุรกิจนำเที่ยวตั้งอยู่ ทั้งนี้  ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวสามารถส่งเอกสารผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) ของแต่ละสาขา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารก่อนยื่นฉบับจริงด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์อีกครั้งหนึ่ง