“บิ๊กตู่” ห่วงอุตฯท่องเที่ยว! รุกหารือ-รับฟังปัญหาภาคเอกชนด้วยตัวเอง

“บิ๊กตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ห่วงใยภาคอุตฯ ท่องเที่ยวไทย ดอดเยือนสมาคมแอตต้าร่วมหารือ-รับฟังความเห็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยตรงด้วยตัวเอง หวังนำข้อมูลไปประเมินความช่วยเหลือ  ด้าน “วิชิต ประกอบโกศล” นายกแอตต้า ชงรัฐพิจารณาเพิ่มมาตรการอุ้มเอกชน  ทั้งขยายเวลาจ่ายชดเชยประกันสังคม-เพิ่มวงเงินซอฟต์โลน-ยกเลิก vat รวมถึงขอเปิดฟรี VOA หลังโควิดยุติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเยือนสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อรับฟังความเห็นและหารือในประเด็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยตรง เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นปัญหาและความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงต้องการฟังเสียงของผู้ประกอบการ เพื่อจะได้นำไปประเมินข้อเสนอต่างๆ ที่หลายฝ่ายเสนอเข้ามา

ด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวของไทยไม่เคยประสบเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนจากที่ในอดีตมักเกิดปัญหาแค่กับตลาดใดตลาดหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งโลกเหมือนครั้งนี้ ทำให้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายอย่างยิ่ง โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นศูนย์อย่างแท้จริง

นายวิชิตกล่าวด้วยว่า ปกติแล้วช่วง 6 เดือนแรกของปีเป็นช่วงที่ทำรายได้กว่า 70% ของรายได้ทั้งปี และเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการลงทุนนำเพื่อเตรียมตัวรับฤดูกาลท่องเที่ยวและหวังเก็บรายได้อย่างเต็มรูปแบบ เมื่อเกิดปัญหาทำให้เงินสดสำรองต่ำ ซึ่งต้องขอบคุณรัฐบาลที่เข้าในและช่วยแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นโครงการพักชำระเงินกู้และดอกเบี้ยของสถาบันการเงินต่างๆ โครงการช่วยเหลือรายได้ให้แรงงานที่ได้รับผลกระทบของสำนักงานประกันสังคม รวมถึงโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน)

“เราเห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายของรัฐบาลที่ตัดสินใจและการดำเนินการอย่างรวดเร็วในการปิดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อควบุคมการแพร่กระจายของไวรัสอย่างจริงจัง” นายวิชิตกล่าว

นายวิชิตกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นอกจากนี้ทางสมาคมแอตต้าจึงได้ถือโอกาสที่นายกรัฐมนตรีเข้ามารับฟังความเห็นนี้นำเสนอถึงแนวทางการช่วยสนับสนุนและขับเคลื่นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. ขอให้พิจาณาถึงแนวทางการขายความคุ้มครองประกันสังคม จากเดิมที่ช่วยเหลือเงินชดเชยประกันสังคม 62% ให้กับลูกจ้างที่สถานประกอบการหยุดดำเนินการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 3 เดือนเป็น 6 เดือนสำหรับตลาดที่ยังได้รับผลกระทบและไม่สามารถเปิดดำเนินการได้

2. ให้พิจารณาขยายวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในทุกสาขาอาชีพเข้าถึงอย่างแท้จริง รวมถึงมีกลไกในการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่มีสินทรัพย์น้อยหรือไม่มีเลยให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ ไม่เช่นนั้นอาจมีแต่บริษัทขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์ 3. เสนอให้พิจาณายกเลิก Vat 7% เช่นเดียวกับภาคธุรกิจส่งออก เนื่องจากค่าบริการบางอย่างในซัพพลายเชนของธุรกิจท่องเที่ยวไม่มีระบบภาษีที่ชัดเจน

และ 4. ขอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องปัญหาสุขภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ ขอให้ไทยปลอดโควิด-19 ก่อนต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และหากประเทศอยู่ในภาวะที่ปลอดภัย ปลอดจากเชื้อไวรัสดควิดแล้วขอให้รัฐบาลพิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (fee VOA) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนและชาติอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ปิดอุทยานแห่งชาติ หรืออุทยานแห่งชาติทางทะเลอย่างน้อย 3-4 เดือนต่อปี เพื่อให้ธรรมชาติมีเวลาพักผ่อน รวมถึงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมและสร้างท่องเที่ยวยั่งยืน