“คิง เพาเวอร์” ตอบจม.บิ๊กตู่! ทุ่ม 1.4 พันล้าน โครงการ 3 ปี

คิงเพาเวอร์

“คิง เพาเวอร์” ตอบจดหมายนายกฯประยุทธ์ เผยควักกว่า 1.4 พันล้านหนุนโครงการเพื่อสังคม เดินหน้าทั้งโครงการเดิม เพิ่มเติมโครงการใหม่รับโควิด-19 มุ่งโฟกัสพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับศักยภาพของสินค้าไทยในระดับนานาชาติ สนันสนุนด้านการแพทย์ การท่องเที่ยว พร้อมนำเสนอ 7 ประเด็นหลักปลุกท่องเที่ยวหลังโควิด

รายงานข่าวจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทำจดหมายส่งถึงมหาเศรษฐีไทยเพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยกันช่วยเหลือเยียวยาประชาชนคนไทยที่ได้รับผลกระทบการจากแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ล่าสุดบริษัทฯ ได้ตอบจดหมายของนายกรัฐมนตรีไปแล้ว โดยระบุว่ากลุ่มบริษัทฯ ไว้วางงบประมาณสำหรับดำเนินงานโครงการเพื่อสังคมรวม 1,468.5 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นโครงการเพื่อสังคมที่จะดำเนินการต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2563-2565 งบประมาณ 749 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการด้านเยาวชน ได้แก่โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย รวม 200 ล้านบาท ได้แก่ สนามฟุตบอล สร้างเยาวชนไทยสนามที่ 61-100 รวม 100 ล้านบาท, ทุนการศึกษามหาวิทยาลัยเดอ มองฟอร์ต ปีการศึกษา 2563-2565 รวม 30 ล้านบาท และทุนการศึกษาภายใต้มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ปีการศึกษา 2563-2565 รวม 18 ล้านบาท

โครงการด้านอาชีพ ได้แก่ โครงการ ฟ็อกซ์ ฮันท์ และคิง เพาเวอร์ คัพ ปี 2563-2565 รวม 270 ล้านบาท, โครงการประกวดวงดนตรีดุริยางค์ เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปี 2563-2565 รวม 36 ล้านบาท และโครงการด้านสาธารณสุข ได้แก่ โครงการส่งมอบตู้อบเด็ก ภายใต้มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ปี 2563-2565 รวม 15 ล้านบาท, สนับสนุนมูลนิธิก้าว เพื่อสนับสนุนกิจกรรมในกระทรวงสาธารณสุข ปี 2563-2565 รวม 75 ล้านบาท และโครงการกระเป๋ายังชีพ ภายใต้โครงการ คิงเพาเวอร์ ไทย เพาวเวอร์ พลังคนไทย รวม 5 ล้านบาท

และโครงการเพื่อสังคม โครงการใหม่ ปีงบประมาณ 2563- 2565 รวม 719.5 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการพัฒนาสังคมในด้านชุมชนและเศรษฐกิจชุมชน Thai Power World Market เพื่อยกระดับศักยภาพของสินค้าไทย เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทางออนไลน์และประชาสัมพันธ์ให้กับชุมชน รัฐวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถสร้างยอดขายได้ในระดับนานาชาติ รวม 70 ล้านบาท

โครงการเพื่อสนับสนุนทางการแพทย์ ได้แก่ โครงการมอบรถพยาบาล ภายใต้มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา รวม 7.5 ล้านบาท และโครงการบริจาคชุด ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ รวม 20 ล้านบาท และโครงการเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 บนหน้าอกชุดแข่งขันของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาล 2020-2021 และป้ายโฆษณาดิจิทัลในสนาม King Power Stadium รวม 622 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ยังได้นำเสนอข้อเสนอแนะด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มเติมอีก 7 ประเด็น ประกอบด้วย กองทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยว, การจัดคลัสเตอร์กลุ่มจังหวัดเพื่อการท่องเที่ยว, จัดเตรียมประกันภัยโควิด-19 สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ, การพัฒนาระบบ E-VISA ON ARRIVAL การตรวจคนเข้าเมือง และการบริหารจัดการตารางการบิน, การพัฒนาองค์ความรู้การท่องเที่ยวแนวใหม่ที่สอดคล้องกับ New Nornal และ การพัฒนา Super Application สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ โดยมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา มีส่วนร่วมในการสนับสนุนเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2563 มอบเงินสนับสนุน 20 ล้านบาทให้กับสถาบันบำราศนราดูร เพื่อใช้ดำเนินงานทางการแพทย์ วันที่ 17 มีนาคม 2563 มอบค่าเบี้ยประกันภัย 5 ล้านบาท จำนวน 50,000 กรมธรรม์ให้กับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำไปสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ

วันที่ 18 มีนาคม 2563 มอบเงินสนับสนุน 20 ล้านบาท ให้โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และวันที่ 31 มีนาคม 2563 กลุ่มบริษัทฯ บริจาคเงิน 9.6 แสนบาท เพื่อนำไปจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจและเครื่องวัดสัญญาณชีพ ให้โรงพยาบาลตำรวจ สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด

รวมทั้งเปิดโรงแรมพลูแมน คิงเพาเวอร์ รางน้ำ บริการห้องพักให้กับบุคลากรทางการแพทย์ จากกรมควบคุมโรค สถาบันบำราศนราดูร และโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระการเดินทางกับบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังได้บริจาคเครื่องเทอร์โมสแกน ให้แก่ศาสนสถาน 4 แห่ง ได้แก่ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร, วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดโบสถ์ จ.ปทุมธานี


และร่วมมือกับกองทัพอากาศและกองทัพเรือจัดส่งกระเป๋ายังชีพที่บรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้ประชาชนใน อ.เกาะยาว จ.พังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดไม่สามารถเดินทางข้ามเขตได้ เกิดความขาดแคลนอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต