“หิมาลายัน ทราเวล” แจ้งเกิด หิมาลายัน Seasonal Fruits ฝ่าวิกฤตโควิด

ยังคงติดล็อกดาวน์ยาวสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ทุกประเทศยังไม่อนุญาตให้เครื่องบินโดยสารต่างประเทศบินเข้าประเทศตัวเอง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อไปจนกว่าสถานการณ์โดยรวมจะคลี่คลายและต้องยอมรับว่าในกลุ่มของบริษัทบริษัททัวร์ซึ่งเป็นธุรกิจกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดกระทั่งปัจจุบันผ่านไปแล้วเกือบ 4 เดือนเต็ม ๆ

ผลกระทบดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งปิดบริษัท และบางส่วนก็เลือกที่จะมองหาโอกาสใหม่ ๆ ด้วยการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ประคับประคองการจ้างงานของพนักงานให้ยังคงอยู่ด้วยกันได้ต่อไป

“หิมาลายัน ทราเวล” เจ้าแม่บริษัททัวร์ในกลุ่มตลาดเอเชียใต้, เอเชียกลาง อาทิ อินเดีย, ปากีสถาน, เนปาล, ตุรกี, ภูฏาน, ศรีลังกา, โมร็อกโก, แคชเมียร์ ฯลฯ เรียกว่ากินรวบเส้นทางทัวร์แสวงบุญสังเวชนียสถานต่าง ๆ ทั้งหมด

“ฐิตารีย์ โภคาพัฒนสิทธิ์” หรือที่ในวงการทัวร์เรียกกันว่า “เศมาร์” เจ้าของและเอ็มดี “หิมาลายัน ทราเวล” ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดอินเดียและเอเชียกลางเป็นตลาด ท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงมาก ทั้งตลาดอินบาวนด์และเอาต์บาวนด์ กระทั่งอินเดียประกาศปิดน่านฟ้าในช่วงกลางเดือนมีนาคม ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวชะงักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ซึ่งจากการที่ได้พูดคุยกับเอเย่นต์ในต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวในตลาดนี้เบื้องต้นพบว่า นักท่องเที่ยวและบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวได้เลื่อนการเดินทางไปแล้วถึงเดือนตุลาคม นั่นหมายความว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวในตลาดดังกล่าวหายไปถึง 8 เดือนเต็ม

“เศมาร์” บอกว่า หลังจากที่ทำการประเมินตลาดและเคลียร์ปัญหากับกลุ่มลูกค้าที่ต้องถูกยกเลิกการเดินทางในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนมีนาคม, เมษายน เรียบร้อย โดยกำหนดโปรแกรมเดินทางอีกครั้งในเดือนตุลาคม จึงมองหาช่องทางทำธุรกิจใหม่

“ถ้าเราคนเดียวไม่มีทัวร์ให้ทำ 8 เดือนก็อยู่ได้ แต่พนักงานเราที่มีอยู่เขาอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าเราต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานต่อไปโดยที่ไม่มีรายได้ใหม่เข้ามา เราก็อยู่ไม่ได้ จึงมาคิดว่าเราจะทำอะไรดี”

สุดท้ายมาสรุปกันที่ “ขายผลไม้” และทำธุรกิจภายใต้หน่วยธุรกิจใหม่ที่ชื่อว่า “หิมาลายัน Seasonal Fruits” ขายผลไม้ทุกอย่างตามฤดูกาล

“เศมาร์” เล่าให้ฟังว่า เขามีน้องสาวขายผลไม้อยู่แล้วจึงปรึกษาว่าต้องทำอย่างไร ไปซื้อผลไม้ที่ไหน พอเริ่มมีข้อมูลก็ชวนพนักงานไปสำรวจตลาด มีพีี่สนิทกันคนหนึ่งแนะนำว่า มีแผงขายผลไม้อยู่ที่ตลาด “ฟู้ด วิลล่า ราชพฤกษ์” ถนนราชพฤกษ์ ทางศูนย์ฯ อยากให้เป็นโซนผลไม้ เลยตัดสินใจจองที่ และมาวางแผนกับทีมงานว่าจะขายผลไม้เกรดพรีเมี่ยม เพราะสถานที่ค่อนข้างพรีเมี่ยม

“เราออกไปเดินตลาดตั้งแต่ตี 4 ทุกวัน ไปเดินสำรวจตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง บางครั้งก็ไปถึงสวนแหล่งที่มาของผลไม้ ทำความเข้าใจว่าช่วงไหนผลไม้อะไรออกสู่ตลาด แบรนด์ไหนที่ลูกค้านิยม ฯลฯ ลุยตลาดเองทั้งหมด”

และเล่าว่าวันแรกลงทุนซื้อผลไม้ 2.5 หมื่นบาท ขายได้กว่า 1.9 หมื่นบาทสนุกมาก เลยตั้งใจลุยเต็มกันเต็มที่ ทั้งช่องทางการขายผ่านหน้าร้าน และช่องทางขายผ่านออนไลน์ แพ็กกล่องกระดาษที่แข็งแรงและสวยงาม สำหรับมอบเป็นของฝาก ของขวัญได้ในทุกโอกาส และให้เมสเซนเจอร์ที่บริษัทส่ง ไม่ได้ต้องใช้ Grab หรือ Line Man

“สิ่งที่เราได้เปรียบในเชิงการตลาดคือ หน้าร้านเราจะค่อนข้างแตกต่างเราจับตลาดพรีเมี่ยม ใช้ผลไม้เกรดเดียวกับตลาด อ.ต.ก. และตกแต่งหน้าร้านทุก ๆ วัน แต่ละวันจะเลือกสินค้าไฮไลต์ หรือที่เราเรียกกันว่านางฟ้าของร้าน มาจัดโชว์ นอกจากนี้ยังติดป้ายคุณสมบัติที่สำคัญของผลไม้แต่ละชนิดด้วยว่า รับประทานแล้วมีประโยชน์อย่างไร ผ่านไป 1 เดือนแรกถือว่าผลตอบรับดีมาก”

และบอกว่าแรงบันดาลใจของเธอคือ น้อง ๆ พนักงานทุกคนที่อยู่ข้าง ๆ และแบ่งปันหน้าที่โดยไม่ต้องร้องขอ ทำให้มีพลังลงมือทำและเดินหน้าเพื่อให้พนักงานทั้งหมดของ “หิมาลายัน ทราเวล” ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป

ถามว่าหากนักท่องเที่ยวกลับมาจะทำ “หิมาลายัน Seasonal Fruits” ต่อไหม “เศมาร์” บอกว่า เขาตัดสินใจแล้วว่าจะทำธุรกิจ “หิมาลายัน Seasonal Fruits” นี้ต่อไป เพราะเชื่อว่าธุรกิจผลไม้นี้จะเอื้อและช่วยสนับสนุนธุรกิจทัวร์ได้อย่างดีในอนาคตด้วย และย้ำว่า นี่คืออีกบทพิสูจน์หนึ่งที่ว่า ในวิกฤตแต่ละครั้งมีโอกาสเสมอ เพียงแต่ “อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยทำกิน” เท่านั้น