‘การบินไทย’ ยังไม่เจรจาเจ้าหนี้รายใหญ่สุด ยอด 4 หมื่นล้าน

วันที่ 16 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หนึ่งในบอร์ดการบินไทยและผู้จัดทำแผนฟื้นฟูการบินไทย ให้สัมภาษณ์รายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” สถานีโทรทัศน์ช่อง 9  ถึงความคืบหน้าการทำแผนฟื้นฟูการบินไทย โดยระบุว่า ขณะนี้การบินไทยยังไม่ได้มีการเจรจาพูดคุยกับเจ้าหนี้กลุ่มใหญ่สุด ได้แก่ กลุ่มสหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นกู้ของการบินไทย ซึ่งมียอดรวมกว่า 40,000 ล้านบาท

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ทราบว่าทางกระทรวงเกษตรฯ ได้เรียกสหกรณ์ที่เป็นหน่วยงานภายใต้การดูแลเข้าไปพูดคุยแล้ว แต่การบินไทย ซึ่งอยู่ในฐานะลูกหนี้ ยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหนี้กลุ่มนี้ ซึ่งตนก็ได้ต่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว

“เจ้าหนี้ของการบินไทยมีหลายประเภท หากเป็นเจ้าหนี้ในต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ให้เช่าเครื่องบิน แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.หนี้สัญญาเช่าดำเนินงาน (Operating Lease) กว่า 90,000 ล้านบาท แต่เมื่อครบกำหนดแล้ว ต้องจ่ายเพียง 1,000 ล้านบาท ไม่ได้จ่ายเป็นก้อนเดียว และ 2.หนี้สัญญาเช่าทางการเงิน (Financial Lease) กว่า 40,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดของการบินไทยในขณะนี้คือเจ้าหนี้หุ้นกู้ในประเทศ ซึ่งต้องรีบเข้าไปพูดคุยเจรจา”

นายพีระพันธุ์ เผยด้วยว่า ในการเจรจากับเจ้าหนี้จำเป็นต้องมีแผนฟื้นฟูกิจการในภาพรวม คล้ายๆ เป็นคู่มือขึ้นมาก่อน 1 แผน แล้วจึงนำแผนนี้ไปเจรจากับเจ้าหนี้แต่ละประเภท อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ ระหว่างนี้การบินไทยจึงได้ให้ทนายความไปเจรจากับเจ้าหนี้ในลักษณะผ่อนสั้นผ่อนยาว ส่วนใหญ่เป็นการเจรจากับเจ้าหนี้เครื่องบิน

นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องการประสานงานพูดคุยกับเจ้าหนี้ เพราะตนไม่ใช่ฝ่ายบริหารเป็นเพียงกรรมการเท่านั้น พร้อมกับกล่าวว่า จำนวนเจ้าหนี้ที่แท้จริงของการบินไทยก็ไม่ใช่หลักล้านรายอย่างที่เป็นข่าว โดยขณะนี้การบินไทยมีเจ้าหนี้อยู่แค่หลักหมื่นรายเท่านั้น

นอกจากนี้ กรรมการการบินไทยยังกล่าวถึงแผนฟื้นฟู ซึ่งไม่ได้มีแค่ประเด็นการตัดรายจ่ายเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอีกหลายเรื่องประกอบกัน ทั้งการหาช่องทางรายได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมถึงการเจรจากับบรรดาเจ้าหนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า 3 กรรมการชุดใหม่ของการบินไทย ซึ่งประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, นายบุญทักษ์ หวังเจริญ และ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ที่ได้รับการแต่งตั้งในที่ประชุมเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ร่วมใจช่วยเหลือองค์กรโดยไม่รับค่าตอบแทนรายเดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

ขณะที่ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ร่วมใจลดค่าตอบแทนรายเดือนลงร้อยละ 50 ตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ และครอบครัว ไม่ได้รับสิทธิบัตรโดยสารฟรี และสิทธิประโยชน์ใดๆ ตั้งแต่ พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริษัทฯ และผลการประชุมจากคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจในปี 2557 ให้ยกเลิกสิทธิประโยชน์ในรูปแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการของรัฐวิสาหกิจและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ