“บางกอกแอร์เวย์ส” ขาดทุนในรอบ 50 ปี คาดปีหน้ากลับมาสดใส

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินกรุงเทพ (BA) ผู้บริหารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และผู้ถือหุ้นใหญ่ บจ.อู่ตะเภา อินเตอร์เนชันแนล เอวิเอชั่น เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบกับทุกสายการบิน ไม่ใช่แค่บางกอกแอร์เวย์ส เพราะฉะนั้น การฟื้นตัวของธุรกิจการบินจึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา

แต่สิ่งที่ต้องช่วยกันคือ ต้องสร้างความเชื่อมั่นร่วมกันที่จะให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ หรือเริ่มกลับมาเดินทางตามปกติตามมาตรการที่มี ซึ่งคาดว่าจะมีการปลดล็อคมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศมา 28 วันติดต่อกัน และจะทำให้สภาพแวดล้อมโดยรวมของเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น

“เมื่อคนเริ่มเดินทางมากขึ้น เงินที่มีก็จะกระจายไปเอง ก็เชื่อว่าจะค่อยๆดีขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เราหวังว่าจะกลับมาเป็นปกติทั้งนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งคาดว่าช่วงปลายปีน่าจะกลับมา และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ้งเราคาดว่าจะกลับมาประมาณต้นปีหน้า รวมแล้วน่าจะช่วงกลางปี – ปลายปีหน้า ธุรกิจการบินไทยจะกลับมาเหมือนเดิม”

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้มีผลกระทบกับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาที่บริษัทในฐานะ บจ.อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น เพิ่งลงนามกับรัฐบาลมา ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างออกแบบการก่อสร้างไป แล้วการจะเปิดรองรับผู้โดยสารจริงก็คงจะใช้เวลาอีกหลายปี ถึงเวลานั้นคงไม่ได้รับผลกระทบอะไรแล้ว

BA ขาดทุนครั้งแรกในรอบ 50 ปี

นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ปรึกษาประธานคณะผู้บริหาร บมจ.การบินกรุงเทพ กล่าวว่าผลกระทบจากโควิด ทำให้ผลประกอบการปีนี้ของบริษัทขาดทุนเป็นครั้งแรกตั้งแต่บริษัทดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี แต่ต่อไปจะดีขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บางกอกแอร์เวย์สประกาศผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 1 ปี 2563 มีรายได้รวมสุทธิ 6,423.2 ล้านบาท ลดลง 17.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งการลดลงของรายได้ดังกล่าวเป็นผลมาจาก รายได้จากการดำเนินงานของธุรกิจสายการบินที่ปรับตัวลดลง 25.2% ธุรกิจสนามบินปรับตัวลดลง 18.4% และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องปรับตัวลดลง14.6%

ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 บริษัทฯ มีขาดทุนสุทธิเท่ากับ 338. 8 ล้านบาท ลดลง 166.3%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 504 ล้านบาท