เตรียมชง “ประยุทธ์” เพิ่มวันหยุดกันยายน หนุนท่องเที่ยวอีกรอบ

เตรียมชง

เตรียมชง “ประยุทธ์” เพิ่มวันหยุดเดือนกันยายน หวังบูมท่องเที่ยวลองวีกเอนด์อีกระลอก ชี้สารพัดปัญหา “เราเที่ยวด้วยกัน” ไม่ปัง รมว.พิพัฒน์-ผู้ว่า ททท. รับสตาร์ตอืด เผย 10 วันแรก มียอดใช้สิทธิเพียง 3 แสนห้อง เร่งเก็บข้อมูลปรับแพ็กเกจ เพิ่มสิทธิประโยชน์เฟส 2 จูงใจ

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่ง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลผ่านโครงการเที่ยวปันสุข ภายใต้งบประมาณรวม 22,400 ล้านบาท ว่า เป็นโครงการที่ดี แต่ในแง่ของการดำเนินโครงการยังมีปัญหาค่อนข้างมาก เช่น มีโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการปรับขึ้นราคาห้องพัก โดยขายห้องพักผ่านเว็บไซต์โครงการในราคาสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ หรือการจองตรงผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม

นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาโอทีเอ (online travel agent) นำห้องพักโรงแรมในพื้นที่ที่ได้รับความนิยมไปตั้งราคาขายเอง แล้วส่งต่อลูกค้าให้ผู้ประกอบการอีกต่อหนึ่ง ฯลฯ รวมถึงปัญหาความซับซ้อนของระบบการจองและการคืนเงินให้นักท่องเที่ยว

จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าโครงการนี้ยังตอบโจทย์ในด้านการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวคนไทยยังนิยมขับรถไปเที่ยวในจังหวัดใกล้ ๆ อาทิ หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์), พัทยา (ชลบุรี), กาญจนบุรี, ราชบุรี รวมถึงจังหวัดในโซนภาคตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ยอดนิยมของคนไทยอยู่แล้ว

ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้จึงยังกระจุกตัวอยู่ในเมืองท่องเที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ที่คนไทยนิยมเท่านั้น ส่วนเมืองท่องเที่ยวหลัก อาทิ ภูเก็ต, กระบี่, สุราษฎร์ธานี ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลักจะไม่ได้รับอานิสงส์ รวมถึงจังหวัดเล็ก ๆ นักท่องเที่ยวคนไทยก็ยังเข้าไม่ถึง

“ส่วนตัวมองว่าที่ภาครัฐประเมินไว้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง 2 แพ็กเกจจะก่อให้เกิดรายได้ทางเศรษฐกิจรวมประมาณ 1.39 แสนล้านบาท และทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 2.62 แสนคนนั้นเป็นไปได้ยากมากที่จะบรรลุเป้าหมาย”

สอดรับกับนายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับผลประโยชน์เป็นโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวหลัก และมีบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้ประโยชน์โดยตรง หรืออาจจะประมาณ 20%

รับออกสตาร์ตอืด

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากเปิดให้จองห้องพักในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันแม้ยอดจองสิทธิห้องพักจะเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ก็ถือว่าเพิ่มขึ้นค่อนข้างช้า ขณะนี้อยู่ราว 3 แสนห้อง (room night) จากโควตา 5 ล้านห้อง โดยเชื่อว่าประชาชนส่วนหนึ่งได้รับข่าวเกี่ยวกับการจองห้องพักในระยะที่ 2

สำหรับการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด และท่องเที่ยววันธรรมดา ที่จะได้รับส่วนลดที่รัฐช่วยจ่ายมากกว่าเดิมจากอัตราส่วนลด 40% เป็น 60%

ดังนั้น เพื่อความชัดเจนจึงขอรอดูสถิติการเข้าพักที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มอย่างไรบ้าง จากนั้นจะหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงการคลัง ในช่วงต้นสัปดาห์หน้าถึงแนวทางในการขยับแพ็กเกจเข้าสู่ระยะที่ 2 (เฟส 2) เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ที่จูงใจให้ออกเดินทางให้มากขึ้น รวมถึงกระตุ้นการเดินทางในวันธรรมดาให้มากขึ้น

ชงเพิ่มวันหยุด ก.ย.บูมอีกระลอก

“ส่วนการเพิ่มวันหยุดยาวจากการยกวันหยุดชดเชยสงกรานต์ที่เหลืออีก 2 วันมาเติม กระทรวงการท่องเที่ยวฯมองว่าการเติมวันหยุดยาวในเดือนกันยายนน่าจะเพิ่มโอกาสในการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวไทยได้ดีกว่า โดยจะเสนอแนวคิดต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้ตัดสินใจต่อไป” นายพิพัฒน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนไทยจะออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศและใช้สิทธิส่วนลดค่าห้องพักในโครงการเราเที่ยวด้วยกันจนหมดโควตา 5 ล้านห้องภายในเดือนตุลาคมนี้ แต่หากใช้โควตาอาจต้องพิจารณาต่อโครงการโดยการขยายเวลาออกไปจนถึงสิ้นปี 2563

ดันมาตรการเยียวยาเพิ่ม

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า หลังจากเริ่มโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เมื่อ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความพร้อมของระบบและความเข้าใจของประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการเช่นเดียวกับระบบของโครงการกำลังใจที่ยังต้องอาศัยเวลาในการปรับปรุงระบบและอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่ม อสม. อสส. และ รพ.สต. จำนวน 1.2 ล้านคนได้ท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง

“ส่วนผลในแง่ของการกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจยังต้องอาศัยเวลาเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากโครงการดังกล่าวเพิ่งเริ่ม รวมถึงคนไทยนิยมท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดเทศกาล จึงยังต้องให้ผ่านช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อีก 2-3 สัปดาห์ก่อนจะทำการประเมินผลอีกครั้ง แต่เชื่อว่าคนไทยจะใช้โควตาครบ 5 ล้านห้อง” นายยุทธศักดิ์กล่าวและว่า

“กำลังใจ” ส่อวุ่นหนัก

นายชัยรัตน์ ไตรจรัสรัตนาพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวถึงแพ็กเกจ “กำลังใจ” หรือโครงการพาบุคลากรทางการแพทย์ (อสม. อสส. และ รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคน เที่ยวฟรี ผ่านบริษัทนำเที่ยว โดยรัฐสนับสนุนงบประมาณ 2,000 บาทต่อคน ว่า ยังไม่ได้รับความสนใจจากบริษัทนำเที่ยวมากนัก โดยมีบริษัทนำเที่ยวลงทะเบียนเข้าร่วมเพียง 986 บริษัท จากที่มีจดทะเบียนราว 1.2-1.3 หมื่นบริษัท เนื่องจากบริษัทนำเที่ยวส่วนใหญ่หาลูกค้าไม่ได้ และบางส่วนขาดกระแสเงินสดหมุนเวียนสำหรับการจัดโปรแกรมท่องเที่ยว โดยขณะนี้รัฐได้ขยายเวลาให้บริษัทนำเที่ยวลงเทียนเพิ่มเติมได้จนถึง 5 สิงหาคมแล้ว

“ตอนนี้เกิดปรากฏการณ์มีผู้นำกลุ่ม อสม. อสส. และ รพ.สต. บางส่วนได้รวบรวมสมาชิกและเข้าพูดคุยกับบริษัทนำเที่ยวบางบริษัท เพื่อจัดทำโปรแกรมท่องเที่ยวราคาถูกกว่าที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ และมีการแบ่งผลตอบแทนกันแล้ว ทำให้บริษัทนำเที่ยวจำนวนมากถอดใจ”

ช่วยปลุกจับจ่ายระยะสั้น

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดยาววันที่ 25-28 ก.ค.ที่ผ่านมา การใช้บริการของโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร คือ มีอัตราการจองห้องพักเพียง 25-30% และอัตราการจองห้องพักตลอดเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 20% เท่านั้น

ขณะที่นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยว เมืองพัทยา กล่าวว่า ช่วงลองวีกเอนด์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากและมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 80-90% แต่ส่วนใหญ่เป็นการพักค้างเพียง 1 คืน ส่วนวันธรรมดาอัตราการเข้าพักไม่เกิน 10% นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงอยากให้รัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยววันธรรมดาเพิ่ม และอยากเสนอให้รัฐบาลเพิ่มการสนับสนุนห้องพักจากเดิมนักท่องเที่ยวจ่าย 60% ภาครัฐจ่าย 40% ให้เป็นนักท่องเที่ยวจ่าย 40% อีก 60% รัฐสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการ

นางสาวสริญทิพย์ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด จ.ระยอง บอกว่า วันหยุดยาวที่ผ่านมาเพียง 2-3 วันเกาะเสม็ดรับนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะเต็มอัตราตามที่กรมอุทยานฯกำหนด 2,700 คน กระตุ้นธุรกิจโรงแรม และร้านอาหารได้ 50% แต่หลังจากผ่านพ้นวันหยุดไปทุกอย่างเงียบหมด ไม่มียอดจองที่พักต่อเนื่องแต่อย่างใด

นายสุทธิรักษ์ คุ้มครองรักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกันถือเป็นมาตรการช่วยระยะสั้น ๆ อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลยังไม่เปิดน่านฟ้าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา การท่องเที่ยวก็จะซึมยาว