กระทรวงการคลังเปิดรายชื่อจังหวัดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวคนไทย แห่ใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” มากที่สุด ชลบุรีนำโด่ง 1.4 หมื่นห้อง
“เราเที่ยวด้วยกัน” โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยการมอบส่วนลดต่าง ๆ ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทาง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ที่เปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์เพื่อเข้าร่วมโครงการ ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค 63
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
วานนี้ (6 ส.ค.63) นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในภาพรวมมีผลตอบรับในทางที่ดี มีประชาชนสนใจลงทะเบียน 4.76 ล้านราย ลงทะเบียนสำเร็จ 4.51 ล้านราย มีโรงแรมสนใจเข้าร่วมโครงการ 6,815 แห่ง กระจายตัวอยู่ครบในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
เมืองหลักที่มีโรงแรมสนใจเข้าร่วมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต และประจวบคีรีขันธ์ และเมืองรองที่มีโรงแรมสนใจเข้าร่วมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เชียงราย จันทบุรี น่าน นครศรีธรรมราช และตราด
โดยมีการจองโรงแรมแล้ว 391,731 ห้อง จ่ายเงินจองเรียบร้อยแล้ว 388,461 ห้อง และโรงแรมที่มีการจองห้องพักแล้วมีจำนวน 3,465 แห่ง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งของจำนวนโรงแรมที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ราคา ห้องพักเฉลี่ยต่อคืนอยู่ที่ 2,950 บาท
- “กรุงไทย” ประเมิน “เราเที่ยวด้วยกัน” กระตุ้นท่องเที่ยวไทย 3.6-6.2 หมื่นล้านบาท
- ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ เช็กอินที่พัก 8.5 หมื่นห้อง ‘คลัง’ ชี้คนแห่เที่ยวชลบุรีมากที่สุด
ขณะที่เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 63 ตามรายงานที่กระทรวงการคลังแจ้งไว้ว่า จังหวัดที่ประชาชนเดินทางออกไปท่องเที่ยวมากที่สุด ได้แก่
- ชลบุรี จำนวน 14,338 ห้อง
- ประจวบคีรีขันธ์ 6,497 ห้อง
- กรุงเทพฯ 5,261 ห้อง
- เชียงใหม่ 5,258 ห้อง
- กระบี่ 4,626 ห้อง
ตัดสิทธิที่พักทุจริต ระงับจ่ายเงิน 40%
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบพบผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็ก 1 แห่ง มีพฤติกรรมต้องสงสัยอาจเข้าข่ายทุจริตจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยที่พักดังกล่าวมียอดการจองห้องพักเต็มตลอดเวลา และเกินกว่าจำนวนห้องพักที่มีอยู่
รวมทั้งผู้เข้าพักมีประวัติการใช้ e-Voucher สำหรับการซื้ออาหารในที่พักโดยที่โรงแรมดังกล่าวไม่มีห้องอาหารไว้ให้บริการแก่ผู้เข้าพัก โดยขณะนี้ได้ระงับการจ่ายเงินสนับสนุนค่าที่พักในสัดส่วนร้อยละ 40 ของราคาที่พัก และ E-Voucher แล้ว และจะพิจารณาตัดสิทธิ การเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันต่อไป
- คลังออกโรงเตือนผู้ประกอบธุรกิจที่พัก “เราเที่ยวด้วยกัน” อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา
-
คลัง เล็งตัดสิทธิที่พักทุจริต เราเที่ยวด้วยกัน ระงับจ่ายเงิน 40%
ทั้งนี้ โครงการเราเที่ยวด้วยกันมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้และการจ้างงานหลักของประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังนั้น จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่พักปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศที่ดีให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง