“เที่ยวไทย” พลิกกลยุทธ์ เจาะตลาด “ญี่ปุ่น”

รูดม่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับงานเทรดโชว์ส่งเสริมการขายชื่อดังอย่าง “ทัวริซึ่ม เอ็กซ์โป เจแปน” (TEJ) ณ โตเกียว บิ๊กไซต์ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 21-24 กันยายนที่ผ่านมา

งานนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสเดินทางไปกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เพื่อสำรวจบรรยากาศการเจรจาซื้อขายสินค้าท่องเที่ยวไทยในตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วย

ททท.เร่งปูพรมตลาดญี่ปุ่น

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า ขณะนี้หลาย ๆ ประเทศแข่งกันชิงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นอย่างหนัก อาทิ “เวียดนาม” ที่ได้ฐานกลุ่มนักเดินทางเพื่อธุรกิจ พาครอบครัวไปเที่ยวเวียดนามมากขึ้น หรือ “ฟิลิปปินส์” ที่วางกลยุทธ์ชูความโดดเด่นของสินค้าหาดทรายชายทะเล ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นเองก็ได้มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น

“เป็นความท้าทายของ ททท.ในการทำตลาดญี่ปุ่นอย่างมาก เมื่อหลายประเทศให้ความสำคัญกับตลาดนี้ เพราะมีศักยภาพในการใช้จ่ายที่ดี”และในโอกาสความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับญี่ปุ่นครบรอบ 130 ปี”

ททท.กับสมาคมบริษัทส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JATA) ได้ร่วมมือกันพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวและกิจกรรมใหม่ ๆ รวม 6 เส้นทาง โดยชูจุดขายว่าไทยมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย มุ่งจูงใจนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาไทยซ้ำมากถึง 77% ให้มาเที่ยวไทยเรื่อย ๆ เช่น เส้นทางดอกไม้, เส้นทางท่องเที่ยวสำหรับผู้หญิง และเส้นทางถ่ายภาพ เป็นต้น

ดึง “โนกิซากะ 46” เจาะผู้หญิง

“ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่” ผู้อำนวยการททท. สำนักงานโตเกียว เสริมว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ททท.ได้แต่งตั้งให้ “โนกิซากะ 46” (Nogizaka 46) กลุ่มศิลปินนักร้องหญิง มีอิทธิพลต่อ

ผู้หญิงรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น และมีแฟนคลับอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นทูตประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในญี่ปุ่น

ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้และสื่อสารภาพลักษณ์ในมุมมองใหม่ของประเทศไทยไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงญี่ปุ่น อายุระหว่าง 20-30 ปี และกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก

สำหรับภาพรวมยอดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทยในปีนี้ ททท.วางเป้าหมายไว้ที่ 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งปิดไป 1.4 ล้านคน โดยตัวเลขตั้งแต่ 1 มกราคม-19 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา พบว่ามีชาวญี่ปุ่นมาไทยแล้วกว่า 1.1 ล้านคน

ขณะที่รายได้ คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 6.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาทในปี 2561

หนุนเว้นวีซ่า “กลุ่มเมดิคอล”

ด้าน “กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ บอกว่า ได้เตรียมหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อกระทรวงการต่างประเทศ พิจารณายกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวสำหรับมารักษาตัวและพักฟื้นในไทยเป็นเวลา 90 วัน ให้แก่ประเทศญี่ปุ่น เนปาล ภูฏาน ศรีลังกา และบังกลาเทศเพิ่มเติม หลังได้อนุมัติให้กับประเทศจีนและกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ไปแล้วเป็นลอตแรก โดยคาดว่ามาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นยอดการเดินทางท่องเที่ยวและพำนักระยะยาว (ลองสเตย์) ได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดเอเชีย

“อีลิทการ์ด” ร่วมวง

ญี่ปุ่นถือเป็นตลาดที่สำคัญและมีศักยภาพมาก โดยในงานนี้ “ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด” หรือ ทีพีซี ได้เข้าร่วมเป็นครั้งแรก เพื่อโปรโมตบัตร “อีลิทการ์ด” ซึ่งคาดว่าจะตอบโจทย์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบและสนใจการเข้ามาพำนักในประเทศไทยแบบระยะยาวด้วย โดยตั้งเป้าหมายว่า ในปีงบประมาณ 2561 จะสามารถขายบัตรอีลิทการ์ดให้ชาวญี่ปุ่นได้ราว 100 ใบ

“พฤทธิ์ บุปผาคำ” ผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี เสริมว่า ญี่ปุ่นถือเป็นตลาดสำคัญปัจจุบันมีลูกค้าชาวญี่ปุ่นถือบัตรมากเป็นอันดับ 5 ครองสัดส่วน 20% รองจากจีน 30%, อังกฤษ 28%, สหรัฐอเมริกา 25% และฝรั่งเศส 22%

โดยขณะนี้ได้เปิดตัวเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนำผลิตภัณฑ์บัตรอีลิทการ์ดที่มีอยู่ไปขายพ่วงอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น

โดยทีพีซีได้เปิดให้บริการแพ็กเกจเสริมรูปแบบใหม่ ภายใต้ชื่อ “แอดเวนเจอร์ ไทยแลนด์” เพื่อให้สมาชิกผู้ถือบัตรใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ผ่านโปรแกรมน่าสนใจต่าง ๆ เช่น เดินเที่ยวรอบกรุงเทพฯ ชิมอาหารริมทาง (สตรีตฟู้ด) เรียนชกมวย เล่นกอล์ฟ ทำสปา ฝึกเรียนทำอาหารไทย เป็นต้น

ถือเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ดึงเศรษฐีชาวต่างชาติใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวแบบลงลึกมากขึ้น