วอนรัฐบาลเร่ง เยียวยา “ผู้ประกอบการ”

MLADEN ANTONOV / AFP

“ลภน ซ่อมประดิษฐ์” อดีตอุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย (สทน.) หนึ่งในผู้สมัครแข่งขันซึ่งถือเป็นตัวแทนของคนใน สทน. และผู้ที่ “ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช” อดีตนายก สทน. หนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อเข้าลงแข่งขันได้ประกาศถอนตัว พร้อมกับยกคะแนนเสียงทั้งหมดให้ ได้ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงประเด็นที่ฝากให้นายกสมาคมคนใหม่สานงานต่อไว้ดังนี้

“ลภน” บอกว่า ยินดีกับนายกสมาคมคนใหม่ และเชื่อว่า “เฮียแตงโม” มีแผนงานในอนาคตที่พร้อมดำเนินการอยู่แล้ว จึงไม่น่ามีอะไรที่น่าเป็นห่วง ขอเพียงสามารถขับเคลื่อนและเดินตามแผนที่วางเอาไว้เท่านั้น พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าทำงานในสมาคมเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนสมาชิกรวมถึงการท่องเที่ยวไทยต่อไป

สำหรับเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่สมาชิกของ สทน.คาดหวังนั้น น่าจะเป็นเรื่องของมาตรการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐที่สามารถกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวภายในประเทศได้จริง ไม่เหมือนกับโครงการที่รัฐจัดสรรให้ก่อนหน้านี้ซึ่งไม่สามารถกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้จริง รวมถึงจะต้องมีมาตรการออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน เพราะหลังจากจบโครงการ “กำลังใจ” ก็ยังไม่มีโครงการอื่น ๆ ออกมาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศเลย

ส่วนในระยะยาวนั้น “ลภน” บอกว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนในการเสริมสร้างสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการเพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายในประเทศอยู่รอดได้ หากไม่มีการสนับสนุนทั้งแหล่งทุน รวมถึงมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายในประเทศ ในไม่ช้าผู้ประกอบการก็จะล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา

ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาก็เริ่มมีผู้ประกอบการหลายคนถอดใจ และย้ายไปทำอาชีพอื่นแทน โดยเฉพาะผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวที่ได้รับผลกระทบมากกว่าเซ็กเตอร์ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในส่วนของตนในอนาคตก็จะยังคงมุ่งไปที่การสร้าง “innovative tourism”สร้างนวัตกรรมการท่องเที่ยวที่แตกต่างจากในอดีต เพื่อพัฒนาวงการการท่องเที่ยวให้มีสินค้าและบริการใหม่ ออกไปสู่สายตาชาวไทยและชาวโลก โดยงานที่เดินต่อแน่นอน คือ การสานต่อโปรเจ็กต์ “Thai Bus Food” ที่ตนได้เป็นผู้ริเริ่มเอาไว้

ขณะเดียวกัน ก็เตรียมที่จะผลักดันแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวใหม่อย่าง ADP platform ที่จะกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภายในประเทศที่น่าเชื่อถือ และทำให้การท่องเที่ยวภายในประเทศกับบริษัทนำเที่ยวได้รับความน่าเชื่อถือและสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นต่อไป ที่สำคัญจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยมีนวัตกรรม และมีสินค้าใหม่ไม่จำเจอีกด้วย