ผ่านไปแล้ว 4 เดือน สำหรับการดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศตามโครงการ “เที่ยวปันสุข” ผ่าน 2 โครงการคือ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “กำลังใจ” ภายใต้งบประมาณ 22,400 ล้านบาท
“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ตัวเลข ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2563 พบว่า มีจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 5.7 ล้านสิทธิ โดยมีผู้ใช้สิทธิจองห้องพักไปแล้ว 1,911,733 สิทธิ ในโรงแรม 4,414 แห่ง ราคาเฉลี่ย ต่อคืน 2,849 บาท
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
มีผู้เช็กอินใช้สิทธิไปแล้ว 779,419 บุ๊กกิ้ง มูลค่าเบิกจ่าย 5,319.5 ล้านบาท ทำให้มีวงเงินงบประมาณเหลืออีกราว 10,000 ล้านบาท
และเพื่อให้โครงการเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย ททท.ได้หารือกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) พร้อมเตรียมนำเสนอแนวทางการปลดล็อกเงื่อนไขโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ลอตใหญ่ใน 5 ประเด็นต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.)
ประกอบด้วย 1.ลดลำดับขั้นตอนและความยุ่งยากในการใช้งาน เพื่อเปิดทางให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงโครงการได้ง่ายขึ้น
2.อนุญาตให้นำแพ็กเกจทัวร์เข้าสู่โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ประกอบด้วยแพ็กเกจทัวร์หลัก 2 กลุ่ม คือกลุ่ม
ท่องเที่ยวสูงวัยที่มีศักยภาพทางการเงินและมีเวลาว่างในวันธรรมดาที่เสนอโดยสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และกลุ่มท่องเที่ยวพรีเมี่ยมเจาะกลุ่มไทยเที่ยวนอกที่มีศักยภาพทางการเงินดี ซึ่งเสนอโดยสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA)
3.อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจองและจ่ายค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน 60% ได้เลย โดยไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวนและนำมาขอส่วนต่าง 40% คืนในภายหลังเหมือนที่ทำกันอยู่ในปัจจุบัน 4.อนุญาตให้โรงแรมที่อยู่ในฐานข้อมูลภาษีของกรมสรรพากรเข้าร่วมโครงการได้ แม้จะไม่ได้จดทะเบียนเข้าระบบโรงแรม
และ 5.อนุญาตให้สามารถวางจำหน่ายกิฟต์โวเชอร์ (gift voucher) โรงแรม ที่พัก สปา และร้านอาหารได้
เช่นเดียวกับโครงการ “กำลังใจ” ที่เตรียมเสนอให้เปิดรับบริษัทนำเที่ยวให้เข้ามาร่วมโครงการเพิ่มเติมอีก
อย่างน้อยประมาณ 200 บริษัท จากปัจจุบันที่มีอยู่ในระบบแล้วราว 1,000 บริษัท
ทั้งนี้เพื่อผลักดันยอดบุคลากรทางด้านสาธารณสุข ทั้ง อสม., รพ.สต. และ อสส. ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการให้ถึงเป้าหมาย
โดยปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิไปแล้วกว่า 578,352 สิทธิ จากผู้ลงทะเบียนราว 6 แสนคน เบิกจ่ายไปแล้ว 1,156 ล้านบาท จากวงเงิน 2,400 ล้านบาท
รวมทั้งประสานงานกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เสนอแพ็กเกจส่งเสริมการประชุมสัมมนาของภาครัฐด้วยแนวทางใหม่ที่แตกต่างกับที่เคยทำมา เพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากขึ้น
โดยมีเป้าหมายทำให้มีผู้ใช้สิทธิเข้าพักครบ 5 ล้านคืน และสิทธิตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านใบ ให้หมดก่อนวันสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 มกราคม 2564…