“ท่องเที่ยว” ผ่านจุดต่ำสุด ถึงเวลาวางรากฐานใหม่รับนักท่องเที่ยว

ท่องเที่ยว
สัมภาษณ์

จากการประเมินของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่ารายได้ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในปี 2563 ที่ผ่านมาน่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 8.3 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดต่างประเทศราว 3.3 แสนล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน และตลาดในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทยมูลค่าราว 5 แสนล้านบาท จากการเดินทางของนักท่องเที่ยวคนไทยประมาณ 95ล้านคน-ครั้ง

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2563 ทำให้รายได้ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในปี 2563 หายไปถึง 2.35 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายรายได้
ที่คาดว่าน่าจะทำได้ถึง 3.18 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 40.8 ล้านคน หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ประมาณ 4-5%

โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศหายไปถึงราว 1.69 ล้านล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 2.02 ล้านล้านบาท ขณะที่ตลาดในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทยหายไปประมาณ 3.3 แสนล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1.16 ล้านล้านบาท

UNWTO คาดทั่วโลกเที่ยว Q4

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ ไม่ได้กระทบเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ทั่วโลกได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

โดยองค์การการท่องเที่ยวโลก หรือ UNWTO แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-สิงหาคม) การเดินทางระหว่างประเทศลดลงประมาณ 700 ล้านคน ส่งผลทำให้รายได้ที่เกิดขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกหายไปไม่น้อยกว่า 7.3 แสนล้านเหรียญ และคาดว่าตลอดทั้งปี 2563 ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวทั่วโลกจะหายไปประมาณ 70% เมื่อเทียบกับปี 2562

และยอมรับสำหรับประเทศไทยก็เป็นไปในทิศทางเดียวของทั่วโลกเช่นกัน โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยหยุดการเดินทางมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยประกาศปิดน่านฟ้า

โดย UNWTO ได้คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะกลับมาอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2564 แต่สำหรับประเทศไทยนั้น ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท.อยู่ระหว่างการวางแผนและเตรียมความพร้อมว่าทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวของไทยกลับมาได้เร็วกว่านั้น

มั่นใจต่างชาติเข้าไทยไตรมาส 3

“ยุทธศักดิ์” บอกด้วยว่า หากประเมินจากความคืบหน้าของวัคซีนในขณะนี้ คาดว่าน่าจะได้เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและการท่องเที่ยวของไทยสามารถกลับมาได้ในช่วงประมาณไตรมาส 3 ของปี 2564 นี้ เนื่องจากในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงซัมเมอร์ของภูมิภาคอเมริกา, ยุโรป ซึ่งปกติจะมีนักท่องเที่ยวระยะไกลเดินทางเข้ามาในปริมาณที่มากพอสมควร

โดยจากการสอบถามไปยังสำนักงาน ททท.ต่างประเทศทั้ง 29 แห่ง ได้รับรายงานว่านักท่องเที่ยวต่างชาติมีความต้องการที่จะออกเดินทางออกนอกประเทศแล้ว โดยคาดว่าดีมานด์ที่รอการเดินทางดังกล่าวนี้น่าจะเข้ามาทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในปี 2564 นี้มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน ขณะที่ตลาดในประเทศหรือไทยเที่ยวไทยนั้น รัฐบาลก็ยังคงเดินหน้ากระตุ้นต่อเนื่อง

ปี’64 รายได้ 1.2 ล้านล้าน

อย่างไรก็ตาม จากการทำ TAT Tourism Recovery Tracker (ข้อมูล ณ 18 ธันวาคม 2563) ได้คาดการณ์สถานการณ์และรายได้ภาคการท่องเที่ยวของไทยสำหรับปี 2564 ว่าน่าจะมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวรวมประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท โดยมาจากตลาดต่างประเทศราว 5 แสนล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 10 ล้านคน และตลาดไทยเที่ยวไทยราว 7 แสนล้านบาท จากการเดินทางท่องเที่ยว 120 ล้านคน-ครั้ง

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ด้วยว่ารายได้ภาคการท่องเที่ยวจะขยับเป็น 2.5 ล้านล้านบาทได้ในปี 2565 หรือกลับมาได้ประมาณ 80% ของรายได้รวมในปี 2562 โดยคาดว่าจะเป็นรายได้ตลาดต่างประเทศ 1.3 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 20.8 ล้านคน และตลาดไทยเที่ยวไทยประมาณ 1.2 ล้านคน จากการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยที่ 180 ล้านคน-ครั้ง

ปี’64-65 มุ่งวางรากฐานใหม่

โดยมองว่าภาพรวมของการท่องเที่ยวของไทยหลังจากนี้จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จะไม่เห็นนักท่องเที่ยวจำนวนเยอะ ๆ อีกแล้ว ภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็น mass tourism จะหายไป หรือเรียกว่า new normal tourism

นักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้น ท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบมากขึ้น ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและ sustainability ที่สำคัญทุกคนจะมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ของการเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวจะยอมจ่ายเพื่อ value

ทั้งนี้ มองว่าในช่วงปี 2564-2565 นี้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการวางรากฐานใหม่ของภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย นั่นหมายความว่า การท่องเที่ยวของไทยจะมุ่งเรื่องคุณภาพมากกว่าปริมาณ ผู้ประกอบการสามารถขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวได้ในราคาที่ดีขึ้น ซึ่งไม่เน้นลดราคาแข่งกันขายถูกเพื่อดึงปริมาณเหมือนที่ผ่านมา

ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้จะทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนอย่างเห็นในอนาคตต่อไป

พร้อมย้ำว่าปี 2564 นี้จะเป็นเรื่องของการปรับตัวและเตรียมตัว ประเทศไทยอาจจะยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากนัก แต่ในส่วนของรายได้อาจจะขยับได้ใกล้เคียงกับปี 2562 ได้ และหากในปี 2565 สามารถปรับตัวได้ดีและเตรียมพร้อมที่ดีขึ้น เชื่อว่าจะเป็นปีที่การท่องเที่ยวของไทยพลิกกลับมาสักประมาณ 20 ล้านคน และมีรายได้ 1.3 ล้านล้านบาท

ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศจะแข็งแรงขึ้น และน่าจะมีจำนวนคนไทยเที่ยวไทยมากกว่าปี 2562 ได้ หรืออยู่ในระดับประมาณ 170 ล้านคน-ครั้ง และคาดว่าจะสร้างรายได้ถึง 1.2 ล้านล้านบาท กล่าวคือ ในปี 2565 ประเทศไทยจะมีรายได้จากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ราว 2.5 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 80% ของปี 2562

มุ่งเพิ่มการใช้จ่ายต่อคนต่อทริป

ไม่เพียงเท่านี้ รัฐบาลยังมีเป้าหมายทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยมีการใช้จ่ายต่อหัวที่เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยประมาณ 50,000 บาทต่อคนต่อทริป (ปี 2560-2562 ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 47,000 บาทต่อคนต่อทริป) ให้เพิ่มเป็น 62,000 บาทต่อคนต่อทริป หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ส่วนคนไทยจะเพิ่มจาก 4,700 บาทต่อคนต่อทริป เป็นไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อคนต่อทริป

“ยุทธศักดิ์” ยังเชื่อและมีความมั่นใจอย่างมากว่าหลังโควิด-19 จบลง การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว และกลับมาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกครั้ง เพียงแต่ระหว่างนี้คนไทยทุกคนต้องช่วยกันไปก่อน หันมาให้ความสำคัญกับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ

“ทุกปีมีคนไทยออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศถึงกว่า 10 ล้านคน ออกไปใช้จ่ายเงินในต่างประเทศปีละ 3-4 แสนล้านบาท ถ้าคนไทยกลุ่มนี้หันมาเที่ยวในประเทศจะช่วยให้การท่องเที่ยวของไทยกลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งในช่วงปี 2564-2565 นี้นอกจากจะเป็นปีของการวางรากฐานใหม่ให้การท่องเที่ยวของไทยแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาสำคัญของการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศด้วย”

โดยย้ำว่า ปี 2563 ที่ผ่านมา เป็นปีที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้ก้าวผ่านจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว ปี 2564 นี้จึงเป็นช่วงที่คนไทยต้องช่วยกันด้วยการออกไปเที่ยวเมืองไทยให้มากขึ้น