ชู “ไทยแลนด์ เอ็กซ์คลูซิวิตี้” ดึงจีนเที่ยวไทยปีหน้า 5.6 แสนล้าน

สัมภาษณ์

“จีน” ถือเป็นตลาดสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 โดยเป้าหมายจากการประชุมแผนปฏิบัติการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประจำปี 2561 ได้วางเป้าเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวจีนสำหรับปีหน้าไว้ที่ 5% เป็น 10 ล้านคน และสร้างรายได้ 5.61 แสนล้านบาท หรือเติบโต 10%

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสร่วมสัมภาษณ์ “สันติ ชุดินธารา” รองผู้ว่าการ ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. เกี่ยวกับสถานการณ์และทิศทางการโปรโมตตลาดจีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ รวมถึงแผนปี 2561 ไว้ดังนี้

คาดจีนเที่ยวไทยปีนี้ 9.5 ล้านคน

“สันติ” บอกว่า ภาพรวมตลาดจีนปีนี้เติบโตดี โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยที่ราว 9.5 ล้านคน หลังจากพบว่าในช่วง 9 เดือนแรกมีการเติบโตที่ดี และยังเห็นสัญญาณดีต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี ทำให้คาดว่านักท่องเที่ยวจีนเติบโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว

โดยใน “โกลเด้น วีค” ช่วงหยุดยาววันชาติจีน จำนวน 7-8 วัน เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มียอดชาวจีนมาเที่ยวไทยเกือบ 3 แสนคน ประกอบกับยอดจองล่วงหน้าโรงแรมและบริษัทนำเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ก็ดีมาก เมื่อเทียบกับช่วงปลายปีที่แล้ว

เที่ยวกระชับความสัมพันธ์

สำหรับ 2 ปัจจัยหลักที่ส่งผลบวกต่อตลาดจีนอย่างมาก คือ “ความสัมพันธ์ที่ดี” ระหว่างไทยกับจีน เพราะตอนนี้ภาคการท่องเที่ยวได้กลายเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไปแล้ว

ในความร่วมมือระดับรัฐบาลของทั้งสองประเทศ พบว่าไม่มีปัญหาระหว่างกันเลย รัฐบาลจีนมีนโยบาย “ไฟเขียว” ให้ชาวจีนมาเที่ยวไทยอย่างเต็มที่ ขณะที่ไทยเองก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวจีนนิยมเดินทางท่องเที่ยว ติด “ท็อป 3” รองจากญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ไปแล้ว

“ท่องเที่ยวได้กลายเป็นหนึ่งในความร่วมมือ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไปแล้ว ไม่ใช่แค่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว”

สันติ ชุดินธารา

หนุนขาย “ทัวร์คุณภาพ”

ส่วนอีกปัจจัยคือ “การแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ” ของประเทศไทย โดยทางด้าน “พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร” รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมงานโรดโชว์ ทำความเข้าใจและให้ข้อมูลแก่รัฐบาลจีนกับบริษัทนำเที่ยว รัฐบาลจีนจึง “ไฟเขียว” ให้บริษัทนำเที่ยวในจีนทำ “ทัวร์คุณภาพ” อย่าทำทัวร์ศูนย์เหรียญซึ่งปัจจุบันราคาทัวร์คุณภาพอยู่ที่ประมาณ 5,000 หยวน (ราว 25,000 บาท) ต่อคนต่อทริป

ขณะที่ทัวร์ศูนย์เหรียญ ราคาที่เห็นโปรโมตขายกันมากอยู่ที่ 999 หยวน (ราว 5,000 บาท) ต่อคนต่อทริป

“ซีทีเอส” บุกหนักตลาดไทย

ล่าสุด บริษัทนำเที่ยว “ไชน่า แทรเวล เซอร์วิส” หรือ “ซีทีเอส” ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ทำตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวต่างประเทศ(เอาต์บาวนด์) เพิ่งมาเปิดสำนักงานที่ไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจีนได้สั่งการให้ทางซีทีเอสเป็น “หัวหอก” ในการทำทัวร์คุณภาพมาประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันมีลูกค้าชาวจีนซื้อแพ็กเกจทัวร์มาไทยกับซีทีเอส ติดหนึ่งใน “ท็อป 5” ของบริษัทนำเที่ยวที่ทำตลาดจีนเที่ยวไทยมากที่สุด

ซีทีเอสได้หารือกับ “ททท.” ว่าอยากลงนามบันทึกความเข้าใจร่วม (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการทำทัวร์คุณภาพ โดยเตรียมเซ็นเอ็มโอยูกันที่งาน “ไชน่า อินเตอร์เนชันแนล แทรเวล มาร์ท” (CITM) ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน หลังจากนั้นก็เตรียมทำแพ็กเกจทัวร์คุณภาพร่วมกัน ส่งให้บริษัทลูกของซีทีเอสในแต่ละมณฑลของจีนนำไปเสนอขาย

“สันติ” เล่าเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการทำตลาดจีนในปี 2561 วางเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวจีน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีนี้ ส่วนรายได้เติบโต 10% โดยเฉพาะจากกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟ.ไอ.ที.) ขณะที่กรุ๊ปทัวร์ยังเดินทางเข้ามาแต่ไม่ค่อยเติบโตเท่าไหร่

ชงแผนขายแบบ “เอ็กซ์คลูซีฟ”

และสิ่งที่อยากบุกในตลาดจีนคือ การขายสินค้าท่องเที่ยวไทย ภายใต้แนวคิด “ไทยแลนด์ เอ็กซ์คลูซิวิตี้” (Thailand Exclusivity) มากขึ้น เน้นโปรโมตให้มาท่องเที่ยวแบบกลุ่มขนาดเล็ก จำนวนประมาณ 6-8 คนกำลังดี เข้าทำนอง small but exclusiveโดยมีแพ็กเกจโรงแรมที่ได้คุณภาพมาตรฐานรองรับ และมีมัคคุเทศก์คอยให้ความรู้ และข้อมูลคุณภาพ เดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวกระแสหลัก (เมนสตรีม) ไม่ค่อยไปกัน

ทั้งนี้ จะนำแนวคิดนี้ไปหารือกับภาคเอกชน เพื่อร่วมกันโปรโมตให้ตลาดจีนรับรู้และสนใจ โดยนำร่องใน 5 เมืองหลักที่ ททท. มีสำนักงาน ทั้งปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว คุนหมิง และเฉิงตู ว่าลองมาเที่ยวประเทศไทยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะมีสินค้าและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ รองรับ อย่าไปแต่แบบ mass อย่างเดียว เช่น เส้นทางพัทยา ที่ขายกันซ้ำ ๆ ลองไปเที่ยวพวกเมืองรอง หรือสินค้าใหม่ ๆ ในเมืองหลัก

“ททท.ต้องหาวิธีเปลี่ยนพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีน ไม่ให้มาแบบกรุ๊ปใหญ่ ๆ อย่างเดียว อยากให้ลองมาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปเล็ก ๆ บ้าง”

รุกช่องทางขาย “ออนไลน์”

ด้านการซื้อขายสินค้าผ่าน “ออนไลน์ แทรเวล เอเย่นต์” (OTA) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีนนั้น “สันติ” บอกว่า ได้มีการรวมตัวกันของผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย จำนวน 50 ราย ในนาม “ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์” (ประเทศไทย) หรือ Online Tourism Club of Thailand (OTCT) ซึ่งทำตลาดออนไลน์ขายนักท่องเที่ยวจีน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

โดยแบ่งเป็นบริษัททัวร์ขายออนไลน์ 25 แห่ง และผู้ประกอบการแหล่งท่องเที่ยวอีก 25 ราย โดยได้ตกลงร่วมกันในชมรมว่า “จะไม่ขายตัดราคากัน” ด้วยการจ้างคนมามอนิเตอร์ราคาสินค้าท่องเที่ยวที่ขายให้ชาวจีนบนช่องทางออนไลน์ ถือเป็นวิธีการ “ตรวจสอบกันเอง” ไม่ให้ขายต่ำกว่าต้นทุน

จากวิธีการนี้ ทำให้ตอนนี้พบว่ามีการตัดราคาขายลดลงเหลือ 5% จากเคยพบมากถึง 4,000 กว่ารายการ

ทั้งนี้ เตรียมใช้โมเดลการตรวจสอบกันเองของ OTCT ที่จังหวัดเชียงใหม่ และหวังว่าจะเห็นโมเดลความร่วมมือของผู้ประกอบการนี้ ขยายตัวอย่างเข้มแข็ง และช่วยกันทำต่อไปในพื้นที่อื่น ๆ ด้วย