บอกเล่าความเป็นไทย ผ่าน “River Festival”

ประสบความสำเร็จอย่างมากใน 2 ปีที่ผ่านมาสำหรับบิ๊กโปรเจ็กต์ระดับชาติอย่างงาน “River Festival สายน้ำแห่งวัฒนธรรม” งานเทศกาลวัฒนธรรมร่วมสมัย และมหกรรมลอยกระทงริมโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มี “ไทยเบฟเวอเรจ” เป็นแม่งานใหญ่

สำหรับปีนี้งาน “River Festival 2017” สายน้ำแห่งวัฒนธรรม ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 จะจัดขึ้นพร้อมกันใน 8 พื้นที่หลัก บนพื้นที่ริมโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายนนี้

“ฐาปน สิริวัฒนภักดี” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ “ไทยเบฟเวอเรจ” ในฐานะประธานการจัดงาน บอกว่า ในปีนี้ “River Festival 2017” ได้เดินหน้าสานต่อความสำเร็จด้วยการขยายพื้นที่การจัดงานไปยัง “ล้ง 1919” หรือ Lhong 1919 ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน อดีตท่าเรือกลไฟริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใหญ่ที่สุดในอดีตที่สร้างขึ้นในสมัย รัชกาลที่ 4 ซึ่งถือเป็นท่าไฮไลต์ใหม่ของปีนี้

โดยทั้ง 8 ท่า คือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร, ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค, ท่ามหาราช, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และล้ง 1919

โดยธีมหลัก ในปีนี้ทางผู้จัดได้เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจากทั่ว โลกมาร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสายน้ำแห่งวัฒนธรรม ภายใต้แนวคิด “แสงมงคลส่องสว่าง” ร่วมกัน

“บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก” ด้วยการเชิดชูศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามที่มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และสะท้อนวิถีชุมชน ริมสายน้ำที่งดงามอันเเป็นเอกลักษณ์ของไทย และ ทั้ง 8 ท่าพร้อมให้ประชาชนได้มาลอยกระทงในมุมใหม่ บนโค้งน้ำเจ้าพระยาที่ยาวที่สุด พร้อมสัมผัสประสบการณ์สุดชิกกับ street market ตลาดไอเดียฝีมือ The great outdoor market ที่ยิ่งใหญ่และมีแฟนคลับมากที่สุดในเวลานี้ พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศริมน้ำกับวงดนตรีสด

ส่วนในวันที่ 5 จะมีงาน Lantern Festival พิธีแขวนโคมมงคล เสริมสิริมงคล นำพิธีโดยอาจารย์คฑา ชินบัญชร
เรียก ว่าจัดเต็มพร้อมกันทั้ง 8 ท่าน้ำ ตลอดทั้ง 3 วัน และนับเป็นโอกาสพิเศษที่นักท่องเที่ยวจะได้ล่องแสงธรรม สักการะไหว้พระ พร้อมกับการยลแสงศิลป์ อันวิจิตรตระการตาทั้ง 4 ท่าน้ำ ตลอดริมโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา และประเพณีลอยกระทงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาทิ พิธีอาบน้ำเพ็ญ พิธีเสริมสิริมงคลโบราณ, ลอยประทีปเพื่อมงคลแห่งชีวิต, สวดมนต์เจริญสมาธิ, ศาลามงคลส่องสว่าง, ร้านถิ่นประชารัฐ, เพลินศิลป์ร่วมสร้างกับการประดับตกแต่งสถานที่ด้วยวัสดุจากชุมชนและการ ประดับไฟ

และอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักถ่ายภาพ คือ “One shot knock out @ Lhong 1919” ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการสร้างสีสันให้กับงานในปีนี้ ด้วยการเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้มาร่วมเก็บภาพความทรงจำอันแสนงดงาม และบรรยากาศภายในงานเทศกาลลอยกระทงปีนี้

นอกจากนี้ ยังคงสานต่อความสำเร็จของอีก 2 โครงการใหญ่ คือ “คลีนคลอง” และ “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม”

สำหรับ โครงการ “คลีนคลอง” เป็นความร่วมมือกันเพื่อฟื้นฟูทัศนียภาพของแม่น้ำลำคลองในช่วงหลังเทศกาลลอย กระทง ด้วยการกำจัดขยะภายในคูคลองและบริเวณใกล้เคียง เพื่อสร้างภูมิทัศน์โดยรอบชุมชนให้สะอาดและมีความน่าอยู่อย่างยั่งยืน

ส่วน โครงการ “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม” โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของไทยผ่านเยาวชนที่เป็นลูกหลานของชุมชน ริมน้ำ ที่ถือเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีความรัก ความหวงแหนวัฒนธรรรมวิถีชีวิตแบบไทยที่ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในการเป็น ส่วนหนึ่งที่ได้เผยแพร่เรื่องราวดี ๆ ของชุมชนตนเอง จนก่อให้เกิดการท่องเที่ยวโดยชุมชน และความยั่งยืนอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ คือความมุ่งหวังและต้องการให้งาน “River Festival 2017” เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง และสืบสานประเพณีอันดีงาม อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมถึงบอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลกนั่นเอง