ลุ้นอีกครั้ง! ครม. เคาะ ขยาย 2 ล้านสิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน”

ลุ้นเคาะขยายสิทธิ์ 2 ล้านสิทธิ์

สำหรับผู้ที่รอคอยว่า ครม.จะขยายสิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” อีก 2 ล้านสิทธิ์ หรือไม่ วันนี้ต้องจับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี 

วันที่ 16 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครม. ยังไม่เห็นชอบรายละเอียดของการขยายสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 พร้อมกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อความรัดกุมในการกำหนดแนวทางการป้องกันการทุจริต เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหา

ซึ่งจะนำกลับเข้ามาเสนอคณะกรรมการเงินกู้ในลักษณะโครงการเราเที่ยวด้วยกันเดิม หรือ เป็นการออกแบบรูปแบบใหม่ ซึ่ง ครม.ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเพื่อดำเนินการในรายละเอียด และนำกลับเข้ามาเสนอต่อ ครม.อีกครั้งหนึ่ง

ด้านแหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เผยว่า ททท.ได้เสนอขอปรับปรุงรายละเอียดรายละเอียดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยขอขยายจำนวนสิทธิ์เพิ่มอีก 2,000,000 สิทธิ์ และขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ จากเดิมสิ้นสุดระยะเวลาการใช้สิทธิ์ในวันที่ 30 เมษายน 2564 และเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เป็นสิ้นสุดระยะเวลาการใช้สิทธิ์ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 และเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 โดยใช้จ่ายจากวงเงินเดิมของโครงการ ฯ (15,000 ล้านบาท)

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เปิดเผยว่า ได้เสนอให้ ครม.พิจารณามอบหมายให้ ททท.ปรับปรุงหรือทบทวนโครงการ ดังนี้

  1. ยกเลิกเงินสนับสนุนจากภาครัฐในส่วน e-voucher หรือกำหนดมูลค่าให้มีความเชื่อมโยงกับมูลค่าห้องพัก อาทิ ร้อยละ 40 ของราคาห้องพัก
  2. กำหนดแนวทางการป้องกันการทุจริตที่จะช่วยให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยในกรณีที่จำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบต่าง ๆ อาทิ ระบบสแกนใบหน้า จำเป็นต้องหารือและเตรียมความพร้อมกับธนาคารกรุงไทยให้ชัดเจนทั้งในส่วนของกรอบระยะเวลาและแผนผังแสดงวิธีการใช้สิทธิ์โครงการ เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่จะใช้สิทธิ์โครงการ ให้มีความเข้าใจและป้องกันความสับสน
  3. ยกเลิกเงื่อนไขที่มอบหมายให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินตามโครงการและดำเนินการเบิกจ่ายโดยวิธีเบิกจ่ายแทนกัน ตามมติครม.เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีเอกภาพ และช่วยให้ ททท.มีความคล่องตัวในการดำเนินโครงการเพิ่มขึ้น

แหล่งข่าวจากททท. เปิดเผยว่า ผู้ว่าการ ททท. เสนอแนวทางป้องกันการกระทำอันอาจก่อให้เกิดการทุจริตภายใต้โครงการ จำนวน 2 มาตรการ ดำเนินการได้ทันที ได้แก่

  1. การกำหนดให้โรงแรมจัดส่งข้อมูลราคาห้องพัก (Rate Plan) มาเทียบกับราคาห้องพัก ณ ปี 2562 ที่ได้จาก OTA เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของจำนวนและราคาห้องพักที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการ
  2. การกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์จะต้องจองที่พักล่วงหน้าก่อนเข้าพักไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ จากเดิมที่กำหนดไว้ 3 วัน เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอในการตรวจสอบข้อมูลที่มีความผิดปกติและสามาระงับการจ่ายเงินให้กับธุรกรรมที่เป็นการทุจริตได้

นอกจากนี้ยังดำเนินการตามแนวทางการป้องกันการทุจริตในส่วนอื่น ๆ อาทิ การป้องกันการสวมสิทธิ์ด้วยระบบสแกนใบหน้าและการยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิ์ที่สาขาธนาคารกรุงไทย นั้น ททท.จำเป็นต้องหารือกับธนาคารกรุงไทย และคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการระยะหนึ่ง

ล่าสุด มีรายงานว่า แนวทางขยาย 2 ล้านสิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” ไม่ได้รับการเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี