วัคซีนโควิด คือคำตอบ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหนุน “ภูเก็ตโมเดล”

ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้มีโอกาสเข้าร่วมหารือแนวทางความร่วมมือการจัดหาวัคซีนระหว่างภาครัฐและเอกชน ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี (ประยุทธ์ จันทร์โอชา) พร้อมด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าไทย เพื่อหาแนวทางลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดลดลงโดยเร็ว และเร่งกำหนดมาตรการรับมือผลกระทบและฟื้นฟูเศรษฐกิจ

โดยในภาคธุรกิจท่องเที่ยวนั้น “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) บอกว่า การบริหารโควิดต้องทำควบคู่กันระหว่างการดูแลเรื่องสุขภาพและเศรษฐกิจ ซึ่งข่าวดีที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้รับมาคือ รัฐบาลยังเดินหน้า “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์” ซึ่งหากรัฐบาลยังเดินหน้า ภาคท่องเที่ยวก็เรียกร้องให้ต้องฉีดวัคซีนให้เพียงพอสำหรับภูเก็ต และทดลองดำเนินการ

ชำนาญ ศรีสวัสดิ์
ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)

หลังจากนั้นก็สนับสนุนขอวัคซีนขยายผลโมเดล “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์” อีก 5 จังหวัดที่พูดถึงคือพังงา, กระบี่, สมุย (สุราษฎร์ธานี), พัทยา (ชลบุรี) และเชียงใหม่

โดย สทท.มองว่า “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์” เป็นโมเดลที่ดี จับต้องได้ จึงอยากเสนอให้รัฐพิจารณาเพิ่มเมืองอื่น ๆ เช่น ชะอำ-หัวหิน, หาดใหญ่ (สงขลา) เข้าไปด้วยในอนาคต เนื่องจากหาดใหญ่จำเป็นต้องพึ่งนักท่องเที่ยวเหมือนกัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียที่คาดว่าจะเข้ามาในอนาคต ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องมีแผนรองรับไว้ก่อน

ฉะนั้น “วัคซีน” คือคำตอบที่แน่นอนที่สุด ซึ่งก็เป็นข่าวดีอีกเช่นกันที่รัฐบาลมีแผนอนุมัติงบฯสั่งวัคซีนเพิ่มมาอีก 35 ล้านโดส อย่างไรก็ตามภาคเอกชนท่องเที่ยวก็อยากเห็นความชัดเจนในแผนการกระจายและฉีดวัคซีนด้วย

สำหรับ สทท.นั้น สิ่งที่จะช่วยรัฐบาลได้คือ 1.ช่วยประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินไปบ้างแล้วในพื้นที่ภูเก็ต โดยผ่านประธานสภาท่องเที่ยวที่มีอยู่ในทุกจังหวัด 2.ช่วยอำนวยความสะดวกด้านสถานที่ฉีดวัคซีนในพื้นที่ โดยประสานกับสมาชิกให้จัดสถานที่ฉีดวัคซีน

และ 3.ช่วยประชาสัมพันธ์ในกลุ่มสมาชิกทั่วประเทศในเรื่องให้ผู้ประกอบการเข้าสู่มาตรฐาน SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และรักษามาตรฐานการป้องกันในด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด การ์ดไม่ตก

รวมถึงสนับสนุนวิธีคิดให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีนได้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระรัฐบาล เพราะผู้ประกอบการบางส่วนมีความพร้อมในการออกค่าใช้จ่ายเอง ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้ราคาควบคุมที่เหมาะสมด้วย


นอกจากนี้อยากเสนอให้รัฐบาลใช้เมสเซจสื่อสารที่เป็น single message เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ เพราะปัญหาการแพร่ระบาดทั่วประเทศครั้งนี้มันหนักหนาสาหัสมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสื่อสารออกไปในทิศทางเดียวกัน