เจ้าหนี้ การบินไทย โผล่ค้านแผนฟื้นฟู ศาลงดสืบพยานนัดฟังคำสั่ง 15 มิ.ย. 64

เจ้าหนี้โผล่ยื่นคำร้องคัดค้านแผนฟื้นฟู “การบินไทย” ศาลล้มละลายกลางงดสืบพยานให้โอกาสผู้ทำแผน-เจ้าหนี้ ชี้แจงภายในเวลาที่กำหนด พร้อมกำหนดนัดฟังคำสั่งศาลอีกครั้ง 15 มิถุนายนนี้

วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) และที่ประชุมเจ้าหนี้ได้มีมติตามมาตรา 90/46 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ยอมรับแผน

โดยมีเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้รวมกันร้อยละ 91.56 ของจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุม และร่วมออกเสียงลงมติได้ลงมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการและแผนที่แก้ไขตามคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการจำนวน 3 ฉบับ ที่ผู้ทำแผนและเจ้าหนี้จำนวน 2 รายเสนอ

วันนี้ศาลล้มละลายกลางได้นัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ โดยมีเจ้าหนี้ยื่นคำร้องคัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการและศาลรับไว้จำนวน 2 ฉบับ ศาลล้มละลายกลางเห็นสมควรให้งดสืบพยานและให้โอกาสผู้ทำแผนและเจ้าหนี้ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ภายในระยะเวลาที่กำหนด และกำหนดนัดฟังคำสั่งศาลเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการในวันที่ 15 มิถุนายน 2564

ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อไป หากศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนก็จะมีผลทำให้การบินไทยสามารถดำเนินกระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไปได้ โดยการชำระหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการซึ่งเจ้าหนี้ทั้งหลายยื่นคำขอรับชำระหนี้ จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ตามแผน การจัดการกระแสเงินสดและทรัพย์สินของบริษัทบางส่วนจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขของแผนฟื้นฟูกิจการ

อีกทั้งคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนจะมีผลให้ผู้บริหารแผนที่ถูกเสนอชื่อตามแผนฟื้นฟูกิจการและแผนที่แก้ไข คือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายพรชัย ฐีระเวช นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ นายไกรสร บารมีอวยชัย และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารธุรกิจของบริษัท และดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป

อนึ่ง บริษัทเชื่อว่าผู้บริหารแผนพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สูงสุดของเจ้าหนี้ทุกราย และขอให้เจ้าหนี้และลูกค้าของการบินไทยเชื่อมั่นว่าการบินไทยพร้อมที่จะกลับมาดำเนินธุรกิจและให้บริการ โดยมีแผนธุรกิจที่จะกลับมาให้บริการด้านการบินทันทีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 คลี่คลายลง รวมถึงเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถฟื้นฟูธุรกิจให้เป็นสายการบินแห่งชาติที่แข็งแกร่งและสร้างกำไรในระยะยาว และจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดูแลทุกท่านอย่างดีที่สุดแม้ในระหว่างที่บริษัทอยู่ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ