“พราว” ชูโมเดล Playcation ต่อยอด “หัวหิน” สู่ภูเก็ต

เปิดให้บริการครบ 3 ปีเต็มแล้ว สำหรับ “สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน” เฟสแรกของโครงการลงทุนแบบผสมผสาน (มิกซ์ยูส) ภายใต้ชื่อ “วานา นาวา หัวหิน” พร้อมนำร่องคอนเซ็ปต์ “Playcation” แลนด์มาร์กใหม่แห่งการพักผ่อนและแหล่งความบันเทิงครบวงจรแห่งแรกในไทย

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสร่วมสัมภาษณ์ “พราวพุธ ลิปตพัลลภ” กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด เกี่ยวกับแผนขยายการลงทุนในหัวหิน รวมถึงแผนงานในอนาคตไว้ดังนี้

ทุ่มปั้น “รีสอร์ตเดสติเนชั่น”

“พราวพุธ” เริ่มต้นเล่าว่า มีแผนพัฒนาโครงการ “วานา นาวา หัวหิน” ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสต้นแบบที่เป็นจุดหมายของการพักผ่อนและแหล่งรวมความบันเทิงครบวงจร หรือ “resort destination” แห่งแรกของไทย ด้วยเงินลงทุนเกือบ 4 พันล้านบาท บนพื้นที่ 35 ไร่ หลังประสบความสำเร็จจากเฟสแรก “สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน” ที่เปิดให้บริการมาครบ 3 ปี  ซึ่งลงทุนไปกว่า 1.2 พันล้านบาท

โดยปีนี้ได้ทุ่มงบฯลงทุนอีก 1.8 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาเฟสที่สอง แบ่งเป็น “โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน” ใช้งบฯ 1.7 พันล้านบาท เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ขนาด 300 ห้อง อาคารสูง 140 เมตร สูงที่สุดในเมืองหัวหิน มองเห็นวิวทะเลแบบพาโนราม่า ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้

ภายในมีพื้นที่รองรับการจัดประชุมสัมมนาและการจัดกิจกรรม (MICE) ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในหัวหิน พร้อมอุปกรณ์การประชุมที่ครบวงจรและทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ โดยผู้เข้าพักจะได้สิทธิ์เข้าใช้บริการสวนน้ำแบบไม่จำกัดเวลาระหว่างช่วงที่พักในโรงแรม

นอกจากนี้ ยังมี “วานา นาวา สกาย” รูฟท็อปบาร์บนชั้น 27 ที่สูงที่สุดของโรงแรม มาพร้อมกับจุดชมวิวลอยฟ้า ที่พื้นเป็นกระจกใส สูงจากระดับพื้นดินถึง 110 เมตร มองเห็นวิวอ่าวหัวหิน เขาตะเกียบ และเขาเต่า เพื่อเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของหัวหิน

และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน โดยได้ดึง “แอชลี ซัตตัน” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเดสติเนชั่นบาร์ระดับโลกหลายแห่ง อย่างแม็กกี้ ชูส์, ไอรอน แฟรี่ส์ ในกรุงเทพฯ หรือ โอฟีเลีย ในฮ่องกง มาร่วมทีม

ไม่เพียงแค่นี้ ยังได้ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในสวนน้ำ พร้อมเพิ่มโซนใหม่ “วานา วันเดอร์แลนด์” ซึ่งเป็นโซนสำหรับเด็กเล็ก รวมถึงเพิ่มร้านอาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ ซึ่งอยู่ภายในถ้ำ “Vana Cave Cafe” ฯลฯ

สำหรับเฟสสุดท้ายได้เตรียมเปิด “วานา นาวา เรสซิเดนท์” คอนโดมิเนียมไฮไรส์ ภายในปี 2561 ขนาด 100 ยูนิต เจาะตลาดไฮเอนด์ รองรับตลาดกลุ่มครอบครัว

ผูกบริการในเครือทั่ว “หัวหิน”

“พราวพุธ” บอกว่า สิ่งสำคัญของคอนเซ็ปต์ Playcation ที่เป็นมากกว่าโรงแรมที่อยู่ติดกับสวนน้ำ คือ การสร้างประสบการณ์ที่สนุกและสะดวกให้ลูกค้า โดยได้นำเอาเทคโนโลยี “RFID” (อาร์เอฟไอดี) เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าพักในโรงแรม ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้รับสายรัดข้อมือ RFID ซึ่งใช้เข้าสวนน้ำ ห้องพัก ฯลฯ และเลือกชำระเงินครั้งเดียวแบบ Pre-paid หรือ Post-paid ก็ได้

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะผูกและเชื่อมโยงการให้บริการและการขายของโรงแรมเข้ากับการลงทุนของ พราว เรียล เอสเตท โครงการอื่น ๆ ในหัวหิน ได้แก่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลหัวหิน รีสอร์ท, บลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ท มอลล์ และทรูอารีน่า หัวหิน ศูนย์รวมสปอร์ตไลฟ์สไตล์

ต่อยอดโมเดลสู่ “ภูเก็ต”

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมนำโมเดลโครงการมิกซ์ยูสท่องเที่ยว “Playcation” ดังกล่าวนี้ไปต่อยอดที่ “ภูเก็ต” ซึ่งบริษัทได้เตรียมลงทุนโดยใช้งบฯลงทุนสูงกว่าโครงการที่หัวหิน โดยมีสวนน้ำขนาดใหญ่กว่าที่หัวหิน 2 เท่า ตั้งเป้ามีผู้เข้ามาใช้บริการ 6 แสนคนต่อปี พร้อมสร้างโรงแรม 3-4 ดาว ในพื้นที่สวนน้ำ เน้นตลาดกลุ่มครอบครัวและไมซ์ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี หรือเสร็จราวปลายปี 2562 หรือต้นปี 2563

ส่วนอีกโครงการคือ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต ที่หาดกมลา ซึ่งใช้งบฯลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท คาดเปิดให้บริการในต้นปี 2562

รุกบริหารสวนน้ำในอาเซียน

“พราวพุธ” ยังเสริมอีกว่า เมื่อปี 2559 บริษัทได้ลงนามสัญญาร่วมทุนกับ WhiteWater West Canada จัดตั้ง WhiteWater South East Asia ซึ่งให้บริการให้คำแนะนำแบบครบวงจรสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการทำสวนน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งภายในปีแรก ทาง WhiteWater South East Asia ได้มีการดำเนินการแล้ว 6 โครงการ ใน 4 ประเทศ แบ่งเป็น เวียดนาม 2 โครงการ, มาเลเซีย 2 โครงการ และฟิลิปปินส์กับอินโดนีเซีย ประเทศละ 1 โครงการ


เมื่อโครงการเหล่านี้เปิดให้บริการในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทก็พร้อมเข้าไปรับบริหารทันทีด้วย…