ททท.งัดแผน 7+7 ต่อยอด-เชื่อมโยง “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์”

7+7
ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา(ซ้าย) ยุทธศักดิ์ สุภสร (กลาง) ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร (ขวา)
สัมภาษณ์

กดปุ่มเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบายเปิดประเทศฟื้นเศรษฐกิจของนายกฯ “บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ 2 พื้นที่หลักคือ จังหวัดภูเก็ต เมื่อ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา และพื้นที่ 3 เกาะของจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ สมุย พะงัน และเกาะเต่า เมื่อ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย “ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา และ “ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ร่วมกันให้สัมภาษณ์ถึงการตอบรับของภูเก็ตแซนด์บอกซ์และสมุยพลัส แนวทางและแผนต่อยอดในอนาคต รวมถึงแผนการเปิดพื้นที่ต่อไป ไว้ดังนี้

ชง “แผน 7+7” เชื่อมโยง นทท.

“ยุทธศักดิ์” บอกว่า หลังจากที่ได้ทยอยเปิดพื้นที่ภูเก็ต สมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า รับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปแล้ว มีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่อยู่ในภูเก็ตครบ 14 วันตามเงื่อนไขเดินทางต่อไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ แล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้ ททท.ได้ทำแผนเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตให้เดินทางต่อไปยังพื้นที่ใกล้เคียงที่เรียกว่า “แผน 7+7”

โดยมองว่า “แผน 7+7” นี้จะช่วยให้ทำการตลาดและทำโปรแกรมการท่องเที่ยวให้มีความน่าสนใจได้มากยิ่งขึ้น กล่าวคือ ผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาใน “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” อยู่ครบ 7 วัน (เดิม 14 วัน) และตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งแล้วให้สามารถเดินทางไปในพื้นที่สมุย พะงัน เกาะเต่า (สุราษฎร์ธานี) รวมถึงเกาะพีพี เกาะไหงไร่เลย์ (กระบี่) และเกาะยาวใหญ่ เกาะยาวน้อย และเขาหลัก (พังงา) ในรูปแบบซีลรูต (sealed routes) หรือ island hopping ได้ตั้งแต่วันที่ 8 เป็นต้นไป

เตรียมเสนอ ศบศ. 22 ก.ค.นี้

“ยุทธศักด์” ย้ำว่า รูปแบบดังกล่าวนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ซึ่ง ททท.ได้ทำการศึกษาแล้ว และที่ผ่านมาก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวที่อยู่ภูเก็ตครบ 14 วันเดินทางต่อไปยังสมุยแล้วบางส่วน จึงมีแผนนำเสนอเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. ในวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้เดินหน้าได้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

นั่นหมายความว่า นอกจากภูเก็ตและสมุยแล้ว 1 สิงหาคมนี้จะมี 7+7 ภูเก็ต-สมุย และ 7+7 สมุย-กระบี่-พังงา อีก 2 จังหวัดด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของการเปิดเกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ (กระบี่) และเกาะยาวใหญ่ เกาะยาวน้อย และเขาหลัก (พังงา) นั้นจากการหารือกับทางพื้นที่นั้นในเดือนสิงหาคมนี้ทั้ง 2 จังหวัดอยากให้มีการเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวตาม “แผน 7+7” ในรูปแบบซีลรูตก่อน

ประกาศ EU ไม่กระทบภูเก็ต

ส่วนผลตอบรับของภูเก็ตแซนด์บอกซ์นั้น “รองศิริปกรณ์” บอกว่าจากตัวเลขล่าสุด 18 วัน (1-18 กรกฎาคม 2564) พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในภูเก็ตสะสมรวม 8,377 คน และมีจำนวนคืนของผู้เข้าพัก SHA+ จากยอดการจองในเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 รวม 229,716 คืน ในจำนวนนี้ 80% อยู่ในเดือนกรกฎาคม หรือ 165,508 คืน

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีจำนวนใบรับรองเข้าประเทศ หรือ COE ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว กว่า 10,000 ราย มีเที่ยวบินให้บริการแล้วรวม 79 เที่ยวบิน และคาดว่าจะมีเที่ยวบินให้บริการในเดือนกรกฎาคมนี้รวม 130 เที่ยวบิน

พร้อมยืนยันว่า จากกรณีที่คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ปรับไทยออกจากรายชื่อกลุ่มประเทศที่สามที่อียูเห็นว่าปลอดภัยและควรได้รับการผ่อนปรนมาตรการจำกัดการเดินทางเข้า หรือ EU white list เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้าของนักท่องเที่ยวที่เป็นตลาดหลักของภูเก็ตแต่อย่างใด

ทั้งเยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สหรัฐ ทุกประเทศยังให้ประเทศไทยเป็นสีส้มและเดินทางได้โดยกลับเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวเหมือนเดิม แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นและเขายกระดับประเทศไทยเป็นสีแดงก็จะส่งผลกระทบ
ทันทีเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ผู้ว่าการ ททท.ย้ำว่า ที่ผ่านมา ททท.พยายามที่จะสื่อสารและทำความเข้าใจกับนานาประเทศให้แยกพื้นที่ของภูเก็ต สมุย ออกจากภาพรวมของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและคงต้องทำต่อไปเพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

อัพสมุยสู่ Wellness Capital

สำหรับพื้นที่ “สมุย พลัส” นั้น “รองฉัททันต์” ให้ข้อมูลว่า ในช่วง 3-4 วันแรกที่เปิดรับนักท่องเที่ยวนั้นกระแสการเดินทางยังมีไม่มากนัก เนื่องจากยังคงมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์สรายเดียวที่ให้บริการ แต่เชื่อว่าตัวเลขจะทยอยดีขึ้นตามลำดับ

แต่ประเด็นที่น่าสนใจของสมุยคือ นักท่องเที่ยวที่อยู่ภูเก็ตครบ 14 วันแล้วเดินทางต่อไปยังสมุยเฉลี่ยวันละ 20-30 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและน่าจะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา บางกอกแอร์เวย์สให้บริการเที่ยวบินภูเก็ต-สมุย วันละ 1 เที่ยวบิน ขณะเดียวกันมีสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน SHA+ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

“ด้วยข้อจำกัดของสมุยที่กำหนดนักท่องเที่ยวต้องอยู่ในโรงแรม 7 วัน ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามายังไม่มาก ตอนนี้เลยกำลังพิจารณากันว่าจะปรับแผนอย่างไรเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งแผน 7+7 น่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยได้มาก เพราะแค่ 2-3 วันที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตเข้ามาสมุยแล้ว 57 คน และยังมีบุ๊กกิ้งล่วงหน้าอีกจำนวนหนึ่งด้วย”

“รองฉัททันต์” ยังบอกด้วยว่า นอกจากนี้สมุยยังสร้างโอกาสทางการตลาดด้วยการวางโพซิชันนิ่งใหม่พร้อมยกระดับให้สมุยเป็น Wellness Capital หรือเมืองท่องเที่ยวที่มีจุดเด่นด้านความกินดีอยู่ดีของภูมิภาคเอเชียอีกด้วย ซึ่งจุดขายใหม่นี้จะทำให้สมุยมีความชัดเจนในตลาดมากขึ้น

จ่อคิกออฟ “ไทยเที่ยวไทย”

ผู้ว่าการ ททท.ยังบอกอีกว่า สำหรับแผนการเปิดพื้นที่อื่น อาทิ พัทยา (ชลบุรี) หัวหิน (ประจวบฯ) ชะอำ (เพชรบุรี) เชียงใหม่ ฯลฯ รับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น ณ เวลานี้ยังคงเดินหน้าตามแผน แต่ก็ต้องยอมรับว่าขณะนี้มีปัจจัยภายนอกเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการกระจายวัคซีน การพัฒนาเมือง แผนเผชิญเหตุ การแพร่ระบาด รวมถึงความพร้อมของคนในพื้นที่

พร้อมบอกด้วยว่า ททท.ยังคงเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวรวมปีนี้ที่ 8.5 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น รายได้ตลาดต่างประเทศ 3 แสนล้านบาทจากจำนวนนักท่องเที่ยวราว 3 ล้านคน และรายได้ตลาดภายในประเทศ 5.5 แสนล้านบาท จากการเดินทางท่องเที่ยวที่ 100 ล้านคน-ครั้ง

ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดภายในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทยนั้น ททท.จะเร่งดำเนินการ 2 โครงการใหญ่คือ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 และ “ทัวร์เที่ยวไทย” ทันทีหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเบาบางลง หรืออาจพิจารณาเริ่มต้นโครงการในพื้นที่ไม่ใช่สีแดงไปก่อน

โดยย้ำว่า แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดจะยังหนักต่อเนื่อง และภาครัฐจะต้องใช้มาตรการที่เข้มขึ้นต่อเนื่อง แต่ ททท.จะไม่ยอมแพ้ และต้องพยายามทำให้บรรลุเป้าหมาย…