3 จังหวัดกลุ่มภาคกลางตอนล่าง 1 ผนึกกำลังเปิดเกมรุกอุตฯท่องเที่ยวเมืองรองรอบกรุงเทพฯ กับ “เที่ยวทริป…ไฮบริดทัวร์” เที่ยวปลอดภัยในยุคโควิดกับการท่องเที่ยวเสมือนจริงบนแพลตฟอร์ม virtual tour 360 องศา พร้อมเลือกซื้อสินค้าโอท็อปโดยตรงจากผู้ขาย
นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 คนส่วนใหญ่วิตกกังวลและไม่กล้าออกเดินทางท่องเที่ยว ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหยุดชะงักมาเป็นเวลานาน แม้ว่ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชน แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ที่ผ่านมายังขาดกิจกรรมที่จะมาช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวกันเพิ่มขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใต้สถานการณ์นี้ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 จึงมีแนวคิดพัฒนาการตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย มาสร้างสรรค์และพัฒนาเป็นสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในแบบ virtual tour 360 องศา หรือทัวร์เสมือนจริงอย่างเต็มรูปแบบมาใช้ในการประชาสัมพันธ์เมืองท่องเที่ยวเมืองรองรอบกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ เพื่อเปิดประสบการณ์ “เที่ยวทริป…ไฮบริดทัวร์” เที่ยวปลอดภัยในยุคโควิด และสร้างความน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้อยากกลับมาเที่ยวซ้ำ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายขึ้น
สำหรับท่องเที่ยวในรูปแบบ “virtual trip” ท่องเที่ยวเสมือนจริงนี้เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำ VR 360 องศา ทั้งภาคพื้นดินและบนอากาศ การสร้างสรรค์มาสคอต และของดีประจำจังหวัดมาในแบบโมเดล 3 มิติที่สามารถดูได้รอบทิศ
พร้อมสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่จะสร้างมิติแห่งการท่องเที่ยวที่ให้มุมมองแบบ 2 แสง คือ กลางวันและกลางคืน ซึ่งจะนำนักท่องเที่ยวก้าวข้ามผ่านมิติของแพลตฟอร์มไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวจริง ได้สัมผัสความงดงามของสถานที่และวัฒนธรรม บริบทของการใช้ชีวิตของผู้คนในชุมชนในทุกแง่มุมผ่านดิจิทัลอาย (digital eye)
“หลังจากที่โลกของการเดินทางหยุดนิ่งมานานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้นักเดินทางโหยหาประสบการณ์จากการออกไปท่องเที่ยว ซึ่งจากการเก็บข้อมูลจากสื่อโซเชียลในช่วงการล็อกดาวน์ระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคมที่ผ่านมา พบว่ามีการพูดถึงความต้องการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย และกิจกรรมที่ผู้คนอยากทำและพูดถึงมากที่สุดบนโลกออนไลน์ คือ อยากไปเที่ยว โดยมีผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมสูงถึงกว่า 3.7 ล้านเอ็นเกจเมนต์”
นายณัฐภัทรกล่าวด้วยว่า การท่องเที่ยวในรูปแบบ virtual trip นี้นอกจากนักท่องเที่ยวจะประทับใจแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่หลากหลายในมุมมองรอบทิศทางแล้วยังจะเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าโอท็อปจากผู้ขายในชุมชนได้โดยตรงผ่านแชต Facebook และ LINE ได้ด้วย
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ของ virtual tour 360 องศา ในรูปแบบของ hybrid tour ร่วมด้วยได้ และสามารถบันทึกภาพความประทับใจระหว่างการท่องเที่ยวได้ด้วย
“มั่นใจว่าการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่นี้จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวของ 3 จังหวัดในกลุ่มการท่องเที่ยวภาคกลางตอนล่าง 1 กลับพลิกฟื้นมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และช่วยกระตุ้นและเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ช่วยกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวเมืองหลักสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง และกระจายลงสู่พื้นที่ชุมชนในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง สอดรับกับการท่องเที่ยวในวิถีใหม่ด้วย” นายณัฐภัทรกล่าว