เอ็น.ซี.ซี.หนุนเมืองสงขลา ขึ้นไมซ์เดสติเนชั่นภาคใต้

“เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์” ต่อสัญญาบริหารศูนย์ประชุมนานาชาติ ม.อ. หาดใหญ่ อีก 5 ปี ประกาศยุทธศาสตร์ต่อยอดความสำเร็จพร้อมหนุนสงขลาเป็นหนึ่ง MICE Destination ภาคใต้ พร้อมขึ้นผู้นำ-ศูนย์กลางการจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ด้าน “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผอ.ทีเส็บ หนุนเพิ่มขีดความสามารถรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจอาเซียน

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า บริษัทได้ต่อสัญญาบริหารศูนย์นานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี (ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นเวลาอีก 5 ปี คือระหว่างปี 2560-2565 หลังจากที่บริหารมาตั้งแต่เปิดดำเนินการเมื่อปี 2551

ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์และแผนการตลาดเพื่อดำเนินการต่อยอดความสำเร็จเพื่อให้ศูนย์ประชุมแห่งนี้เป็นศูนย์กลางตลาดไมซ์ในภาคใต้ในหลาย ๆ ด้าน อาทิ สร้างการเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ใน 4 วิทยาเขต โดยพร้อมให้คำปรึกษาการบริหารศูนย์ประชุมของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทั้ง 4 วิทยาเขต คือ สุราษฎร์ธานี ตรัง ภูเก็ต และปัตตานี เพื่อให้เกิดการใช้งานศูนย์ประชุมอย่างมีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์สูงสุด

สนับสนุนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ให้เป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติ โดยให้คำปรึกษาด้านการจัดงาน การจัดอบรมด้านการจัดงาน รวมถึงบริการจัดงานประชุมอย่างมืออาชีพ และผลักดันให้จังหวัดในแต่ละวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นอีกหนึ่ง MICE Destination ของภาคใต้ โดยดึงงานกิจกรรมที่สำคัญ ๆ ไปจัดที่ศูนย์ประชุมของวิทยาเขตอื่น ๆ

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดสร้าง Food Paradise Zone ศูนย์อาหารในรูปแบบที่แปลกใหม่ เพื่อตอบโจทย์ในการเป็นศูนย์ประชุมนานาชาติที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

นายศักดิ์ชัยยังกล่าวถึงภาพรวมของการบริหารศูนย์ประชุมนานาชาติฯ ม.อ.ว่า ศูนย์ประชุมแห่งนี้มีอัตราการเช่าพื้นที่จัดงานและมีความต้องการจัดงานที่หลากหลายมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยแบ่งการจัดงานออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ การจัดประชุมสัมมนา 51% การจัดนิทรรศการและการแสดงสินค้า 16% งานเลี้ยง-งานแต่งงาน 10% งานคอนเสิร์ต การแสดง 7% และอื่น ๆ 16%

โดยงานที่จัดขึ้นเป็นงานระดับภูมิภาคและระดับประเทศ คิดเป็นสัดส่วนถึง 95% ที่เหลืออีก 5% เป็นงานระดับนานาชาติในลักษณะของการร่วมจัดระหว่างหน่วยงาน หรือองค์กรภายในประเทศและระหว่างประเทศ สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา รวมกว่า 6,500 ล้านบาท มีจำนวนผู้เข้าร่วมชมงานราว 1.8 ล้านคน เกิดการใช้จ่ายเงินจากผู้เข้าร่วมงานประมาณ 4,500 ล้านบาท

ด้านนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า ปัจจุบันศูนย์ประชุมนานาชาติฯ ม.อ. หาดใหญ่ เป็นศูนย์ประชุมระดับนานาชาติของประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ รองรับผู้เข้าร่วมงานไมซ์ได้ถึง 4,000 คน และมีศักยภาพในการเพิ่มขีดความสามารถรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจอาเซียน

นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์ที่สามารถรองรับงานใหญ่ในระดับภูมิภาคมาแล้วเป็นจำนวนมาก เช่น การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ, งานแสดงสินค้าเทรดแฟร์, งานโอท็อป และเอสเอ็มอี ฯลฯ

โดยความร่วมมือระดับประเทศภายใต้กรอบความร่วมมือสามเหลี่ยมเศรษฐกิจของภาคใต้ เนื่องจากสงขลาเป็นจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการลงทุนของภาคใต้ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา ปาดังเบซาร์ เชื่อมโยงเศรษฐกิจทางตอนบนของภาคกับตอนใต้ของประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติ

“ด้วยศักยภาพของจังหวัดสงขลานี้ทำให้เรากำลังทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการผลักดันให้จังหวัดสงขลาเป็นเมืองแห่งไมซ์ หรือ MICE City อีกแห่งหนึ่งหลังจากที่ผลักดันภูเก็ตให้เป็นไมซ์ซิตี้หลักของภาคใต้” นายจิรุตถ์กล่าว

ขณะที่ รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ มาโดยตลอด ที่สำคัญยังทำให้ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ ม.อ. ได้รับการยอมรับจากผู้จัดงาน ผู้เข้าร่วมงาน ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ จึงได้ทำการต่อสัญญาการบริหารไปอีก 5 ปีดังกล่าว

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยยังคงนโยบายที่มุ่งรักษาคุณภาพและมาตรฐาน และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมในรูปแบบใหม่ ๆ ทั้งการจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติ การจัดแสดงสินค้าขนาดใหญ่ ฯลฯ รวมทั้งร่วมกันพัฒนาบุคลากรด้านไมซ์ที่มีศักยภาพและมีความเป็นมืออาชีพด้วย