เปิดประเทศวันแรกคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่เดินทางเข้าไทย 27 สายการบิน

เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
REUTERS/Soe Zeya Tun

ภาพบรรยากาศ ต่างชาติเข้าไทยวันแรกคึกคัก ประยุทธ์อยู่ “สกอตแลนด์” ประชุม COP26 สั่ง “อนุทิน” ดูความเรียบร้อย 

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ประเทศไทยประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศหลังจากที่ได้รับผลกระทบจาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาเกือบ 2 ปี

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า จากการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศต่าง ๆ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีนักท่องเที่ยวจากสายการบินต่างประเทศต่าง ๆ ทยอยเดินทางเข้าไทย โดยเที่ยวบินแรกที่เดินทางเข้าไทย คือเที่ยวบิน ที่ NH 805 เดินทางจากสนามบินโตเกียวนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมผู้โดยสาร 43 คน เป็นคนไทย 32 คน และชาวต่างชาติอีก 11 คน โดย ทั้งหมดถูกตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น

เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปฏิบัติงานด้วยความรัดกุมสวมชุด PPE อำนวยความสะดวก ตรวจสอบเอกสารและคัดกรองผู้โดยสารตามแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยวันนี้จะมีทั้งหมด 61 เที่ยวบินที่เป็นเที่ยวบินโดยสารส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินจากยุโรปเป็นหลัก

ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 2,300 คนและคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศอีกบางส่วนรวมมีคนเดินทางเข้าประเทศประมาณ 3,000 คน รวมวันที่ 1-5 พ.ย.นี้ มีสายการบินต่างชาติทั่วโลกที่จะทำการบินเข้า และออกประเทศไทย มีทั้งหมด 27 สายการบิน มีผู้โดยสารรวม 15,230 คน

เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
FILEPHOTO : Lillian SUWANRUMPHA / AFP

เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงลงจากเครื่องบินจะต้องผ่านจุดวัดอุณหภูมิ จากนั้นทำการแสดงเอกสารให้สาธารณสุขตรวจสอบ ทั้งการผ่านระบบ COE กับ QR CODE ในด่าน Thailand Pass ประกอบด้วยเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน กรรมธรรม์ประกันภัย ผลการตรวจหาเชื้อ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง เอกสารการจองที่พัก AQ หรือที่พักตามมาตรฐาน SHA+

จากนั้นจึงไปทำการผ่านด่าน ตม. ตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ และผ่านศุลกากร ไปยังจุดนัดพบ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจะต้องทำการติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” และตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR และพำนักอยู่ในโรงแรม หากผลออกมาไม่ติดเชื้อ จึงจะสามารถเดินทางออกจากโรงแรมได้ แต่หากตรวจพบว่าติดเชื้อ จะให้เข้าสู่ระบบการรักษาทันที

เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
REUTERS/Soe Zeya Tun
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
REUTERS/Soe Zeya Tun
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Sakchai Lalit : AP
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Sakchai Lalit : AP
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
REUTERS/Soe Zeya Tun
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Sakchai Lalit : AP
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Sakchai Lalit : AP
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Lillian SUWANRUMPHA / AFP
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Sakchai Lalit : AP
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Lillian SUWANRUMPHA / AFP
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Sakchai Lalit : AP
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Sakchai Lalit : AP
เปิดประเทศวันแรก ต่างชาติถยอยเข้าไทย
PHOTO : Lillian SUWANRUMPHA / AFP

เที่ยวบินแห่เข้า “ภูเก็ต” มากกว่า 11 เที่ยวบิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ททท.สำนักงานภูเก็ต พร้อมด้วยท่าอากาศยานภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ร่วมต้อนรับเที่ยวบินแรกแตะรันเวย์สนามบินภูเก็ต จากสวิตเซอร์แลนด์ สายการบิน Edelweiss ที่กลับมาทำการบินหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

โดยนำนักท่องเที่ยว 227 คน ด้วยเครื่องบิน Airbus 340 บินสู่ภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว โดยผู้โดยสารที่เดินทางมาและได้รับวัคซีนครบโดส จะเข้ารับการตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง และสามารถท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ทันที

จังหวัดภูเก็ต นำร่องเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวนานาชาติ โดยวันนี้ มีเที่ยวบินเข้ามาจังหวัดภูเก็ต กว่า 11 เที่ยวบิน และจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

นักท่องเที่ยวที่เดินทางจาก 63 ชาติ ที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค. และได้รับวัคซีนครบถ้วน จะสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวภายใต้หลักเกณฑ์ “Test and GO” เพียงรับการตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง และเมื่อได้รับผลสวอป ก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อได้ทันที ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย

นางสาวนันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ได้รับการประสานจาก ททท.สำนักงานแฟรงก์เฟิร์ตเรื่องเที่ยวบินดังกล่าว นักท่องเที่ยวจากสวิตเซอร์แลนด์และประเทศใกล้เคียงในภูมิภาคยุโรป กำลังให้ความสนใจและเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายในการเดินทางในช่วงฤดูหนาวนี้

เปิดประเทศวันแรก ประยุทธ์อยู่ “สกอตแลนด์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปเข้าร่วมประชุมการประชุมระดับผู้นำในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC: COP) ครั้งที่ 26 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2564

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า มีความจำเป็นต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ ที่มีความสำคัญเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมเดินทางไปด้วย เป็นการไปแสดงวิสัยทัศน์ หรือแถลงการณ์ที่จะกล่าวในที่ประชุมหลายสิบประเทศด้วยกัน เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมในความร่วมมือลดภาวะโลกร้อนและก๊าซเรือนกระจก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเสียดายที่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นวันเปิดประเทศ แต่ไม่ได้อยู่ ทั้งนี้ได้สั่งการกำชับกับทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือของคนไทยทุกคนต้องมีส่วนร่วม เพราะมีการเคลื่อนไหวไปมา มีการประพฤติปฏิบัติตนตามวิถีของตนจึงต้องเตือนกันว่าเวลานี้ไม่ใช่วาระปกติจะสนุกสนานกันเลยเถิดไม่ได้

ฉะนั้นต้องมีกติกากันอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ได้อยากไปห้ามอะไรต่าง ๆ เพียงแต่ถ้าไม่ทำก็จะเดือดร้อนกันอีก จะไปห้ามกันอย่างไรเศรษฐกิจก็จะเดินไม่ได้การท่องเที่ยวก็จะไม่ฟื้นตัวอะไรทำนองนี้ เชื่อว่าทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตนก็จะติดตามดู “ขอให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองต่อไปด้วยน้ำมือของคนไทยทุกคน เราต้องช่วยกันนะจ๊ะสวัสดีจ้ะ”

มอบ “อนุทิน-ศักดิ์สยาม” ดูความเรียบร้อย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในวันพรุ่งนี้ 1 พฤศจิกายน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ดูความเรียบร้อยของสถานที่/เส้นทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภาพรวม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตรวจสอบความพร้อมมาตรการรองรับและติดตามการเข้า-ออก ของผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดจนสนามบินอื่นๆที่เปิดให้มีการบินเข้าจากต่างประเทศเข้ามา

นอกจากนี้ยังให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สอดส่องดูแลทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม ของ  ศบค. เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดยังคงไม่อนุญาตให้มีการดื่ม/จำหน่ายแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทั่วไป ในส่วนกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของ ททท. และไม่เกินเวลา 21.00 น. เท่านั้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว จัดทีมงานช่วยตรวจตราสถานประกอบการ ร้านค้า ตลาด ชุมชน ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting เพราะแม้จะมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำแบบไม่กักตัวหรือจำกัดพี้นที่เพิ่มเติม 63 ประเทศและพื้นที่ แต่รัฐบาลยังให้ความสำคัญสูงสุดในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ เช่นเดียวกับประชาชนยังยึดหลักอนามัยส่วนบุคคลและดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล Universal Prevention

63 ประเทศเข้าไทยไม่ต้องกักตัว

นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศ และการดูแลคนไทยในต่างประเทศ ลงนามในประกาศศูนย์ปฏิบัติการมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ (30 ต.ค.)

เรื่อง การกำหนดรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับบุคคลประเภท (13) “ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศ ของรัฐบาล”

ทั้งนี้ ได้มีการทบทวนรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักรสำหรับบุคคลประเภท (13) โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบกับ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศ และพื้นที่นั้น ๆ

จึงประกาศรายชื่อประเทศและพื้นที่ ต้นทางสำหรับบุคคลประเภท (13) ที่ผู้เดินทางจากประเทศและพื้นที่ดังกล่าวได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ดังนี้

    1. ออสเตรเลีย
    2. ออสเตรีย
    3. บาห์เรน
    4. เบลเยียม
    5. ภูฏาน
    6. บรูไนดารุสซาลาม
    7. บัลแกเรีย
    8. กัมพูชา
    9. แคนาดา
    10. ชิลี
    11. จีน
    12. โครเอเชีย
    13. ไซปรัส
    14. สาธารณรัฐเช็ก
    15. เดนมาร์ก
    16. เอสโตเนีย
    17. ฟินแลนด์
    18. ฝรั่งเศส
    19. เยอรมนี
    20. กรีซ
    21. ฮังการี
    22. ไอซ์แลนด์
    23. อินเดีย
    24. อินโดนีเซีย
    25. ไอร์แลนด์
    26. อิสราเอล
    27. อิตาลี
    28. ญี่ปุ่น
    29. คูเวต
    30. ลาว
    31. ลัตเวีย
    32. ลิทัวเนีย
    33. ลักเซมเบิร์ก
    34. มาเลเซีย
    35. มัลดีฟส์
    36. มอลตา
    37. มองโกเลีย
    38. เมียนมา
    39. เนปาล
    40. เนเธอร์แลนด์
    41. นิวซีแลนด์
    42. นอร์เวย์
    43. โอมาน
    44. ฟิลิปปินส์
    45. โปแลนด์
    46. โปรตุเกส
    47. กาตาร์
    48. โรมาเนีย
    49. ซาอุดีอาระเบีย
    50. สิงคโปร์
    51. สาธารณรัฐสโลวัก
    52. สโลวีเนีย
    53. ศรีลังกา
    54. สาธารณรัฐเกาหลี
    55. สเปน
    56. สวีเดน
    57. สวิตเซอร์แลนด์
    58. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
    59. สหราชอาณาจักร
    60. สหรัฐอเมริกา
    61. เวียดนาม
    62. ฮ่องกง
    63. ไต้หวัน