กต.แจงปัญหาเทคนิคระบบ Thailand Pass ผู้ลงทะเบียนไม่ได้รับ QR Code

กระทรวงการต่างประเทศแจงปัญหาขัดข้องเทคนิค Thailand Pass ผู้ลงทะเบียนไม่ได้รับ QR Code เร่งประสาน สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และกรมควบคุมโรค พร้อมเพิ่ม 30 คู่สายคอลล์เซ็นเตอร์ตอบข้อสงสัย

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงปัญหาที่ผู้ลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass บางรายไม่ได้รับ QR Code ว่าอาจมาจากหลายสาเหตุ ดังนี้

1. ผู้ลงทะเบียนไม่ได้อัพโหลดเอกสารการฉีดวัคซีนตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มเอกสาร เอกสารที่โหลดจากกระดาษที่ไม่ชัดเจน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจเอกสารด้วยตาเปล่า เพราะไม่สามารถตรวจด้วยระบบการอนุมัติอัตโนมัติได้

2. การกรอกข้อมูล และแนบเอกสารต่าง ๆ ไม่ตรงตามรายการที่กำหนด รวมทั้งเอกสารการเข้าพักที่โรงแรมซึ่งไม่ได้เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลที่รับตรวจ RT-PCR

3. มีการลงข้อมูลซ้ำหลายครั้ง ทำให้เกิดความสับสนในการพิจารณาอนุมัติ บางกรณีลงข้อมูลซ้ำแต่ระบุเงื่อนไขการเข้าพื้นที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น วันที่ 1 ระบุว่าจะเข้าด้วยวิธี EQ (ยกเว้นการกักตัว) แต่ลงทะเบียนวันที่2เลือกแบบแซนด์บอกซ์เป็นต้น

4. ผู้ลงทะเบียนกรอกอีเมล์ผิด หรือหน่วยความจำอีเมล์เต็ม ทำให้ไม่ได้รับอีเมล์ตอบรับหรือส่ง QR Code ทั้งนี้ ตรวจพบว่าอีเมล์ hotmail ไม่รับอีเมล์ตอบกลับ ซึ่งกำลังประสานงานกับบริษัท Microsoft เพื่อแก้ปัญหา ระหว่างนี้แนะนำให้ใช้อีเมล์อื่นในการลงทะเบียน

โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานงานกับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และกรมควบคุมโรค เพื่อนำข้อขัดข้องเทคนิคต่าง ๆ ไปปรับปรุงระบบ Thailand Pass ให้สามารถบริการผู้เดินทางได้สะดวกขึ้น อาทิ

– พัฒนาให้ผู้ยื่นคำร้องสามารถยื่นเอกสารในรูปแบบไฟล์ pdf ด้วย
– ทำ drop down list ให้เลือกโรงแรมที่ผูกกับโรงพยาบาล เพิ่มฟังก์ชั่นให้ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้ โดยไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ
– รวมทั้งเร่งประสานงานเพิ่มรายชื่อประเทศที่สามารถอ่าน digital vaccine certificate แบบอัตโนมัติให้ได้มากขึ้น จากที่มีอยู่ปัจจุบัน 30 ประเทศ เพื่อลดภาระเจ้าหน้าที่ในการตรวจเอกสาร

พร้อมกันนี้แนะนำให้ผู้เดินทางควรเผื่อเวลาให้ตรวจสอบใบรับรองวัคซีนล่วงหน้า แม้ว่า ประกาศจะกำหนดว่าใช้เวลาพิจารณาเอกสาร 7 วัน ซึ่งโดยเฉลี่ยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถตรวจใบรับรองวัคซีนได้ใน 3 วัน สำหรับผู้มีความจำเป็นเร่งด่วนฉุกเฉินขอให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ในเมืองที่อาศัยอยู่

สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ call center กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศหมายเลข 02 572 8442 ซึ่งปัจจุบันได้เพิ่มคู่สายเป็น 30 สาย